posttoday

เตือนรัฐเร่งแก้ใช้แอลพีจีมั่ว

17 กันยายน 2555

เอกชนเตือนรัฐเร่งปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี หลังราคาภาคครัวเรือนกับขนส่งต่างกันกว่า กก.ละ 3 บาท หวั่นจูงใจลักลอบใช้ผิดประเภทมากขึ้น

เอกชนเตือนรัฐเร่งปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี หลังราคาภาคครัวเรือนกับขนส่งต่างกันกว่า กก.ละ 3 บาท หวั่นจูงใจลักลอบใช้ผิดประเภทมากขึ้น

เตือนรัฐเร่งแก้ใช้แอลพีจีมั่ว

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) มีราคาที่แตกต่างกันมากเกินไป ทางกระทรวงพลังงานควรเร่งดำเนินการปรับราคาให้เหมาะสม โดยปัจจุบันราคาแอลพีจีมี 3 ชนิด แยกตามประเภทของการใช้ทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง

ทั้งนี้ หากแอลพีจีมีราคาที่ห่างกันมากเกินไป จะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการลักลอบใช้แอลพีจีผิดประเภทได้ โดยเฉพาะถ้ารัฐมีนโยบายปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งออกไปอีก จะทำให้มีราคาต่างกับราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนมากกว่า 3.25 บาท/กก. จากขณะนี้ที่ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนมีราคาอยู่ที่ 18.13 บาท/กก. ในขณะที่แอลพีจีภาคขนส่งมีราคาอยู่ที่ 21.38 บาท/กก.

ด้านแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมได้ทยอยปรับขึ้นราคามาตั้งแต่ปลายปี 2554 จนล่าสุดมีราคาอยู่ที่ 30.13 บาท/กก. หากสามารถรักษาระดับราคานี้ต่อไปได้ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการใช้แอลพีจีผิดประเภท เพราะที่ผ่านมาได้มีมาตรการผ่อนผันให้กับผู้ใช้แอลพีจีภาคอุตสาหกรรมที่เป็นระดับเอสเอ็มอี สามารถปรับไปใช้ถังขนาดครัวเรือน 48 กก.ได้ แต่รวมกันต้องไม่เกิน 1,000 กก./เดือน เพื่อที่จะใช้แอลพีจีในราคาครัวเรือน

สำหรับการใช้แอลพีจีในภาคขนส่ง เมื่อภาครัฐมีนโยบายที่จะปรับราคาให้สะท้อนตลาดโลก เพื่อลดสัดส่วนการใช้ลงโดยส่งเสริมให้ไปใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) แทน แต่แผนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคขนส่งก็ไม่สามารถเดินตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ จากเดิมที่ต้องทยอยปรับขึ้นเดือนละ 75 สต./กก. ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2555 ก็ต้องชะลอการปรับราคา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.-16 ส.ค. หลังจากนั้นได้ประกาศปรับขึ้น 25 สต./กก. มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.เป็นต้นมา และล่าสุดครบกำหนด 1 เดือน ที่ควรจะมีการพิจารณาปรับขึ้นราคา แต่กระทรวงพลังงานก็ยังไม่มีการพิจารณา

“ต้องยอมรับว่าแม้รัฐจะส่งเสริมให้ใช้เอ็นจีวีในรถยนต์แทนแอลพีจี แต่สังเกตได้ว่าปั๊มแอลพีจีก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะภาครัฐไม่สามารถคุมการเปิดปั๊มแอลพีจีได้ ประกอบกับราคาน้ำมันสูงผู้ใช้รถยนต์ก็หันมาเปลี่ยนใช้แอลพีจีแทน ดังนั้น สิ่งที่จะช่วยควบคุมการใช้ได้อีกทางหนึ่ง คือการเพิ่มภาษีป้ายทะเบียนของรถที่ใช้แอลพีจี ซึ่งรัฐบาลเคยมีแนวคิดนี้ แต่ก็ไม่เห็นดำเนินการให้เป็นรูปธรรม” นายชิษณุพงศ์ กล่าว