posttoday

บิ๊กโคล่าทุ่มผุดโรงงาน2

12 กันยายน 2555

อาเจ กรุ๊ป โหมลงทุนไทยต่อ เตรียมทุ่มหลายพันล้านผุดโรงงานแห่ง 2 ภาคเหนือ มั่นใจแข่งขันได้

อาเจ กรุ๊ป โหมลงทุนไทยต่อ เตรียมทุ่มหลายพันล้านผุดโรงงานแห่ง 2 ภาคเหนือ มั่นใจแข่งขันได้

บิ๊กโคล่าทุ่มผุดโรงงาน2

นายโซริน วอยเนีย หัวหน้าฝ่ายการตลาดเอเชียแปซิฟิก บริษัท อาเจ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ “บิ๊ก โคล่า” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมลงทุนโรงงานผลิตแห่งที่ 2 ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวจากโรงงานแห่งแรกที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี

สำหรับโรงงานดังกล่าวคาดว่าจะใช้งบลงทุนหลายพันล้านบาท หรือใกล้เคียงกับโรงงานแห่งแรกที่ลงทุน 3,000 ล้านบาท โดยกำหนดเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 และเลือกทำเลตั้งโรงงานที่จังหวัดในภาคเหนือ เพื่อลดต้นทุนในการขนส่งซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ของบริษัท ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าเป็น 30 แห่งทั่วประเทศ จากปีที่แล้วที่มีอยู่ 12 แห่ง ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มตัวแทนจำหน่ายรายย่อยอีกมากกว่า 60 รายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุมในทุกพื้นที่ และกระจายสินค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเพื่อรองรับตลาดในประเทศที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยถือเป็นตลาดกลยุทธ์ของอาเจ กรุ๊ป เนื่องจากมีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา บิ๊ก โคล่า ในไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 30% ต่อปี และเป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกันทั้งภูมิภาคเอเชีย

“จากการแบ่งโซนตลาดโลกเป็น 3 โซน คือ เอเชีย ยุโรป และอเมริกา ซึ่งเดิมมีสัดส่วนเท่ากัน แต่ในอนาคตเชื่อว่าโซนเอเชียจะมีสัดส่วนมากกว่าทั้งสองโซนดังกล่าวจากการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย โดยไทยจะเป็นประเทศต้นแบบในการทำตลาดของเอเชียแปซิฟิกด้วย” นายวอยเนีย กล่าว

ขณะที่การแข่งขันของตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยจะมีการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น จากการที่จะมีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ จึงมองว่าการลงทุนช่วงนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี และเชื่อว่าจะยังสามารถเติบโตได้สูงต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี เนื่องจากภูมิภาคนี้มีสภาพอากาศที่ร้อน และฐานคนระดับกลางมีเพิ่มมากขึ้นจากคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ปัจจุบัน บิ๊ก โคล่า มีโรงงานผลิตและสำนักงานที่ดูแลในภูมิภาคนี้อยู่ 4 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรมการตลาดพร้อมกันทั้งภูมิภาค ซึ่งเป็นแคมเปญระดับภูมิภาคในชื่อ “บิ๊ก โคล่า ท้าดวลจุดโทษกับ โจ ฮาร์ท”

สำหรับแคมเปญดังกล่าวใช้งบประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 160 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดสำหรับประเทศไทย 60 ล้านบาท เวียดนาม 40 ล้านบาท อินโดนีเซีย 40 ล้านบาท และอินเดีย 20 ล้านบาท โดยจะเฟ้นหาตัวแทนประเทศละ 2 คนเข้าร่วมดวลจุดโทษกับ โจ ฮาร์ท สุดยอดผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของโลก ชิงถ้วยดาวซัลโวของบิ๊ก โคล่า ที่อังกฤษ

ปัจจุบัน บิ๊ก โคล่า ครองส่วนแบ่งตลาด 15-20% จากตลาดน้ำอัดลมในไทยมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท