posttoday

ลีเวอร์ขึ้นตึกคุมอินโดจีน

05 กันยายน 2555

ยูนิลีเวอร์ฉลอง 80 ปีในไทย ควัก 2,600 ล้าน ผุดสำนักงานใหญ่คุมอินโดจีน พร้อมลงทุนพันล้านทุกปี

ยูนิลีเวอร์ฉลอง 80 ปีในไทย ควัก 2,600 ล้าน ผุดสำนักงานใหญ่คุมอินโดจีน พร้อมลงทุนพันล้านทุกปี

นายบาวเค่อ ราวเออร์ส ประธาน กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ เชื้อสายแองโกล-ดัตช์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่บริษัทดำเนินกิจการในไทยครบรอบ 80 ปี เตรียมแผนลงทุนกว่า 2,600 ล้านบาท สร้างอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในไทย เป็นอาคารสูง 12 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 4.8 หมื่น ตร.ม. ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 มีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2556

ทั้งนี้ บริษัทได้เช่าที่ดินดังกล่าวยาว 20 ปี จากบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการ โดยบริษัทจะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดต่างๆ ทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง ซึ่งโครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายระดับโลกของบริษัทที่จะก้าวไปสู่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตเป็น 2 เท่าตัวภายในปี 2558 และลดของเสียจากการดำเนินการและการผลิตลงให้ได้ 50% ในไทย เพื่อรองรับพนักงานราว 1,200 คน ของบริษัทที่เตรียมย้ายเข้ามาทำงานในอนาคตด้วย

“อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ดังกล่าวของบริษัทยังจะพัฒนาให้มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ จำนวน 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นคาดมีพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 3,000 ตร.ม.ต่อชั้น” นายราวเออร์ส กล่าว

สำหรับมาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบางรายการของกระทรวงพาณิชย์ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.นี้ บริษัทยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการแข่งขันด้านราคาจากการจัดกิจกรรมการส่งเสริมการขาย (โปรโมชัน) ในตลาดตามปกติ โดยผลประกอบการในครึ่งแรกของปีนี้ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย มียอดขายเติบโตกว่า 10% ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาด และคาดว่าในสิ้นปี 2555 จะมียอดขาย 4 หมื่นล้านบาท

นายวิวรรธน์ กฤษฎาสิมะ รองประธานกรรมการฝ่ายซัพพลายเชน บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เซอร์วิส กล่าวว่า สำนักงานใหญ่ดังกล่าว|ยังจะเป็นศูนย์กลางดูแลการทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอินโดจีนด้วย จากปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ดูแลการทำตลาดในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ยังจะทำพร้อมกับการพัฒนาระบบการขนส่ง (ทรานสปอร์เทชัน) หรือซัพพลายเชนทั้งระบบ ซึ่งในแต่ละปีบริษัทใช้งบลงทุนต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งและกระจายสินค้า (โลจิสติกส์) และคลังสินค้า พร้อมหันไปใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีในหน่วยรถขนส่งของบริษัทเพื่อประหยัดพลังงานและลดต้นทุนในภาพรวมทั้งหมดด้วย