โรงแรมไทยจ่อปรับราคาปีนี้10%

สมาคมโรงแรมไทยหวังปรับราคาปีนี้ 10% หนุนรายได้ท่องเที่ยวตามเป้ารัฐบาล ด้านสทน.ตอกรัฐไร้เม็ดเงินอัดฉีด

น.ส.ศุภวรรณ ถนอมเกียรติ อุปนายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ด้านการตลาด ในฐานะสมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า โครงสร้างราคาห้องพักโรงแรมในปีนี้ จะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ราคาที่แท้จริง โดยเดือนต.ค.นี้ ผู้ประกอบการจะปรับราคาเฉลี่ย 5-8% ขณะที่ในปีหน้าจะปรับ เฉลี่ย 8-10% ซึ่งเป็นการขยับราคาขึ้นในรอบ 4-5 ปี หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้มองว่าราคาห้องพักจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้รายได้ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้ามีรายได้ 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันโรงแรม สร้างรายได้ 30% ประมาณ 3.6 แสนล้านบาท ของรายได้ทางการท่องเที่ยวทั้งหมด หากต้องการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวให้ถึง 2 ล้านล้านบาท ราคาห้องพักต้องปรับราคาในช่วง 3 ปีข้างหน้า เฉลี่ย 15-18% คิดเป็นสัดส่วน 66% มูลค่าราว 6 แสนล้านบาท

“ในอนาคตจะมีโรงแรมอินเตอร์เชนมาเปิดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และเชนอินเตอร์จะเป็นกลุ่มที่ทำราคาได้ดี ขณะที่โรงแรมเก๋ อย่างบูทิก หรือ โรงแรมแถบอันดามัน อย่างกระบี่ ภูเก็ต ปัจจุบันมีราคาต่อคืนค่อนข้างสูง”น.ส.ศุภวรรณ กล่าว

นายธเนศ วรศรัณย์ รองประธานด้านพัฒนา สทท. กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เติบโตเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยว ขณะที่รายได้ทางการท่องเที่ยวเติบโตเพียง 6 % เฉลี่ย 12 ปี เติบโตเพียงปีละ 0.5% การจะผลักดันให้ภายใน 3 ปีข้างหน้า รายได้ทางการท่องเที่ยวเติบโตได้ 8 % รายได้ทางการท่องเที่ยวเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% นั้น จำเป็นต้องเพิ่มใน 3 เรื่องหลัก การเพิ่มมูลค่าการบริการ ได้แก่ ผู้ประกอบการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยว และสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว

“ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมากนัก มาตรการต่างๆที่นำเสนอไปไม่ได้รับการพิจารณาตอบกลับ คงค้างเรื่องไว้นาน แต่รัฐบาลชุดนี้ ทีมงานนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับเอกชนท่องเที่ยว คุยปัญหาทุกๆ 2 สัปดาห์ ทำให้เอกชนเห็นถึงความหวังและแสงสว่างว่า เป้าหมายการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท จะเป็นไปได้ไม่ยากมากนัก”นายธเนศกล่าว

นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสภาสทท. เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยว สทท.มั่นใจว่าเป้าหมายทางการท่องเที่ยวปี 2558 จำนวน 2 ล้านล้านบาท มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแผนผลักดันอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การอบรมบุคคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ปีละ 1 แสนคน รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รวมถึงสนามบินพาณิชย์ จำนวน 36 แห่งทั่วประเทศไทย เป็นต้น

สำหรับเป้าหมาย 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทย 5.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%ต่อปี เทียบจากปัจจุบันมีรายได้ 4.3 แสนล้านบาท  และต่างชาติ 1.45 ล้านล้านบาท   เพิ่มขึ้น 16% ต่อปี มีจำนวนนักท่องเที่ยว 26.16 ล้านคน คาดมีค่าใช้จ่ายต่อคนเพิ่มเป็น 5,310 บาท/วัน เทียบจากปัจจุบันค่าใช้จ่ายต่อคน 4,187 บาท/วัน

ด้านนายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า นโยบายรถคันแรกของรัฐบาล จะช่วยส่งเสริมให้การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศปีหน้าเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางระยะใกล้กรุงเทพ เช่นทะเลฝั่งตะวันออก ฯลฯ  โดยมองว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีงบประมาณอัดฉีดภาคการท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น แต่ต้องการใช้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือทำรายได้ให้กับประเทศ