posttoday

ขู่ฟันไทยคมปล่อยโฆษณาผิดกฎอ.ย.

29 สิงหาคม 2555

กสทช.เตรียมลงดาบไทยคม ปล่อยช่องโทรทัศน์ดาวเทียมโฆษณาผิดกฎ อ.ย. เล็งใช้มาตรการทางอาญา-ปกครอง

กสทช.เตรียมลงดาบไทยคม ปล่อยช่องโทรทัศน์ดาวเทียมโฆษณาผิดกฎ อ.ย. เล็งใช้มาตรการทางอาญา-ปกครอง

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. มีแผนที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ บริษัท ไทยคม ผู้ให้บริการดาวเทียมไทยคมและไอพีสตาร์ กรณีเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมที่มีการโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.)

ทั้งนี้ เพราะเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว กสทช.ได้ขอความร่วมมือไปยังไทยคม ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมกับผู้ประกอบกิจการช่องดาวเทียมให้ช่วยระงับการเผยแพร่ของสถานีโทรทัศน์ที่มีการโฆษณาผิดกฎ อ.ย.รวมทั้งให้ส่งฐานข้อมูลผู้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมให้กสทช.และ อ.ย. แต่จนถึงขณนี้ทั้ง กสทช.และ อ.ย.ยังไม่ได้รับฐานข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด ส่งผลให้ไม่สามารถจัดการกับผู้ประกอบการช่องดาวเทียมที่มีการโฆษณาเกินจริงได้ 

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่กสทช.มีคำสั่งระงับก่อนหน้านี้  คือ  เอนไซม์เจนิฟู๊ด ซันคลาร่า และเกร๊กคู  หลังจากนั้นทางไทยคมชี้แจงว่า ได้ส่งหนังสือขอให้ระงับการออกอากาศโฆษณาดังกล่าว ไปยังช่องดาวเทียมที่เกี่ยวข้องจำนวน 6 ราย คือ บรัท กสท โทรคมนาคม บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น บริษัท กานต์มณี กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น ลาว และ บริษัท มีเดีย ทัช  แต่กลับไม่ส่งฐานข้อมูลผู้ประกอบการที่มีอยู่ทั้งหมด 400 รายให้ ซึ่งถือว่าไม่ให้ความร่วมมือกับกสทช.และ อ.ย.

น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกสทช.และ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทค. กล่าวว่า บอร์ดกทค.เป็นผู้ให้ใบอนุญาตให้บริการ หรือ ไลเซ่นส์ กับไทยคมเพื่อให้บริการดาวเทียมไทยคม 7  ซึ่งถือว่ามีสิทธิ์ในการกำกับดูแลไทยคม ดังนั้น หากไทยคมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด  กทค.จะใช้มาตรการทางอาญาและปกครองเข้าควบคุม เพราะถือว่าไม่ให้ความร่วมมือกับกสทช.ในฐานะผู้กำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม หากไทยคมยังดำเนินการในลักษระดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการขอไลเซ่นส์ของไทยคมในอนาคต  หลังจากที่หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์มีผลบังคับใช้ในช่วงเดือน พ.ย.  ซึ่งกสทช.จะสามารถเข้าควบคุมผู้ประกอบการในด้านต่างๆ รวมถึงเนื้อหาที่จะนำเสนอผ่านเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียมด้วย

ทั้งนี้ กสทช.ได้รับการร้องเรียนจาก มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค 16 จังหวัดให้ควบคุมโฆษณาที่เป็นสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพซึ่งเผยแพร่ทางทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และวิทยุชุมชน หลังจากพบว่า ปัจจุบันมีเนื้อหาการโฆษณาที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 คิดเป็น 95% โดยมีการโฆษณาที่แสดงสรรพคุณเป็นยา กล่าวคือ โฆษณาว่าสามารถบำบัดบรรเทา รักษาหรือป้องกันโรค รวมไปถึงบำรุงร่างกายได้