กสทช.ลั่นปรับดีแทคเป็นมูลค่าเลข8หลัก

กสทช. อิงฐานไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ปรับดีแทคเริ่มต้น 5 แสนบาท พร้อมสรุปมูลค่ารวมระดับ 8 หลักอีก 4 วัน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งช ติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาค่าปรับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กรณีเกิดปัญาหาเครือข่ายล่มทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 น. ของวันที่ 28 ส.ค. ซึ่งเบื้องต้นจะอิงฐานค่าปรับเดียวกับที่กสทช.ปรับรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ที่วันละ 5 แสนบาท แต่หลังจากคำนวณมูลค่าความเสียหายทั้งหมดมั่นใจว่าจะสูงระดับ 8 หลักอย่างแน่นอน 

ทั้งนี้ สาเหตุที่ค่าปรับต้องสูงระดับ 8 หลัก  เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทั้งหมด  130 ล้านเลขหมายที่ไม่สามารถติดต่อระหว่างกันได้เป็นเวลาหลายชม. และระบบล่มครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 5 ที่ดีแทคปล่อยให้เกิดขึ้น จึงถือว่าดีแทคไม่ปฏิบัติตามตาม มาตรา 33 พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ที่ระบุชัดเจนว่าผู้ให้บริการต้องบำรุงรักษาโครงข่ายให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

“คณะกรรมการจะใช้เวลาทำงาน 4 วันเพื่อสรุปมูลค่าทั้งหมด ซึ่งกสทช.ต้องการให้มีราคาสูงมาก ต่อให้ปรับเป็นหลัก 100 ล้านบาท ดีแทคก็ต้องยอมรับ  เพราะเครือข่ายดีแทคล่มบ่อยมากและครั้งละหลายชม. หากไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ปัญหาก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก”นายฐากรกล่าว

นอกจากค่าปรับที่ดีแทคต้องจ่ายให้กสทช.แล้ว ยังมีมาตรการเยียวยาลูกค้าที่ดีแทคจะต้องคิดค่าบริการคืนกลับให้ลูกค้าเช่นเดียวกับทุกครั้งที่เกิดปัญหาเครือข่ายล่ม ซึ่งลูกค้าของดีแทคที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้สามารถร้องเรียนมาที่กสทช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ได้ 

ปัจจุบัน ดีแทคมีฐานลูกค้ารวม 23.6 ล้านราย โดยดีแทคได้ชี้แจงต่อกสทช.ว่า ระบบล่มครั้งนี้กระทบกับลูกค้าเพียง 20% มีสาเหตุการขัดข้องจากตัวส่งผ่านสัญญาณข้ามเสา (Multi Protocol Label Switching) ที่ศูนย์รังสิตไม่ทำงาน และเครื่องสำรองที่มีอยู่ก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาดีแทคประสบปัญหาเครือข่ายล่มรวม 4 ครั้ง คือ วันที่ 21 ธ.ค. 2554 ซึ่งเป็นครั้งที่รุนแรงเพราะระบบล่มทั่วประเทศจากความขัดข้องเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลลูกค้า และเกิดขึ้นกรณีเดียวกันอีกครั้งในวันที่ 5 ม.ค. 2555 ครั้งที่ 3 วันที่ 8 ม.ค.2555 จากสาเหตุรถชนเสาเคบิลภาคใต้ และครั้งที่ 4 วันที่ 4 พ.ค.2555 ที่มีปัญหาในแถบจังหวัดภาคเหนือจากสายเคเบิลขาด