posttoday

แม็คโครซุ่มพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่

24 สิงหาคม 2555

แม็คโครซุ่มพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่ สยามโฟรเซ่น เจาะพื้นที่ใกล้ตลาดสด นำร่อง4 สาขาในต่างจังหวัด มั่นใจกำลังซื้อโค้งสุดท้ายปีนี้ยอดขายทะลุแสนล้านบาท

แม็คโครซุ่มพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่ สยามโฟรเซ่น เจาะพื้นที่ใกล้ตลาดสด นำร่อง4 สาขาในต่างจังหวัด มั่นใจกำลังซื้อโค้งสุดท้ายปีนี้ยอดขายทะลุแสนล้านบาท

นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามแม็คโคร ผู้ดำเนินธุรกิจห้างค้าส่ง “แม็คโคร” เปิดเผยว่าบริษัทได้พัฒนาร้านค้าปลีกรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์ “สยามโฟรเซ่น” เพื่อจำหน่ายสินค้ากลุ่มอาหารแช่แข็ง อาทิ ปลาแซลมอน ปลาหิมะ หอยแมลงภู่ เฟรนช์ฟรายด์ ฯลฯ รองรับความต้องการลูกค้าทั่วไปที่ต้องการสินค้ากลุ่มนี้ โดยทดลองเปิดให้บริการเมื่อปี2554 ที่ผ่านมา

สำหรับร้านค้าดังกล่าว มีพื้นที่ขนาด2-3 คูหา เน้นทำเลใกล้กับตลาดสดเป็นหลัก เปิดให้บริการตั้งแต่ตี4 โดยปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งสิ้น 4 สาขา คือ เชียงใหม่ อุดรธานี ทุ่งสง จ.สงขลา และนครราชสีมา โดยในแต่ละสาขาจะใช้ระบบการจัดซื้อสินค้าจากผู้ผลิต(ซัพพลายเอร์) เดียวกับห้างแม็คโคร สาขาปกติที่มีพื้นที่ราว 7,000-1 หมื่นตร.ม. ซึ่งจะทำหน้าที่บริหารจัดการร้านสยามโฟรเซ่น ในสาขาที่อยู่ในทำเลเดียวกันด้วย

ทั้งนี้ หลังจากทดลองให้บริการ1ปี ได้การตอบรับดีจากกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนผลการดำเนินการด้านต่างๆ พร้อมเสนอรายงานไปยังบริษัทแม่ เอสเอชวี โฮลดิง เอ็น.วี ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อรับทราบและพิจารณาต่อไป ว่ามีความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะขยายสาขาร้านสยามโฟรเซ่น ไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงในกรุงเทพฯด้วย ซึ่งร้านดังกล่าวใช้งบลงทุนเฉลี่ย6ล้านบาทต่อสาขา

สำหรับในช่วง4-5 เดือนสุดท้ายปีนี้ คาดว่ากำลังซื้อยังอยู่ในระดับดี และยังมีการจับจ่ายซื้อสินค้าในธุรกิจหมวดอาหารอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทเตรียมจัดงาน “มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหาร และอุปกรณ์ครั้งที่7” (แม็คโคร โฮเรกา 2012) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด สร้างสรรค์ธุรกิจ ด้วยแนวคิดสากล โดยจะมีบูธแสดงสินค้าอาหารและอุปกรณ์กว่า270 รายระหว่างวันที่ 13-16 ก.ย.นี้

สำหรับในครึ่งแรกของปีนี้ ที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตธุรกิจเพิ่มขึ้นกว่า 17% เทียบกับในปีก่อน โดยเฉพาะยอดขายที่เติบโตสูงจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในช่วงปลายปีก่อน  ส่วนในครึ่งหลังปีนี้หากไม่มีปัจจัยลบใดๆ เกิดขึ้น บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโตได้ในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกอยู่ที่ 17%-18% จากเมื่อปี2554 บริษัทมียอดขายกว่า 9.9 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มธุรกิจร้านค้าหรือโชห่วย 50% มียอดขาย6เดือนแรกเติบโต 20% และกลุ่มธุรกิจร้านอาหารสัดส่วน50% เติบโตกว่า 30% ซึ่งแนวทางการทำตลาดแม็คโคร นับจากนี้จะมุ่งสร้างอัตราเติบโตในสาขาเดิมที่มีอยู่ ในสัดส่วนเดียวกับจีดีพีของประเทศ จากปัจจุบันที่ถูกจำกัดการขยายสาขาขนาดใหญ่จากกฎหมายผังเมือง ปัจจุบันแม็คโครมีทั้งสิ้น 55 สาขาทั่วประเทศ และสมาชิก2.4 ล้านราย

นางสุชาดา กล่าวว่าบริษัทยังได้ศึกษาตลาดในประเทศเพื่อนบ้านแถบนี้ อาทิ ลาว กัมพูชา วียดนาม และพม่า อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคตหากบริษัทแม่ สนใจขยายตลาดค้าปลีกในกลุ่มประเทศดังกล่าว และมอบให้บริษัทเป็นผู้ดูแลในอนาคตหลังเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน(เออีซี)ในปี2558 จากปัจจุบันบริษัทดำเนินกิจการในไทยมานาน23 ปี และจะมีอายุครบ 25 ปีในอีก 2 ปีข้างหน้านี้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน บริษัทแม่ยังยืนยันว่าขณะนี้ ไม่มีนโยบายขายกิจการค้าปลีกแม็คโครในประเทศไทยแต่อย่างใด ด้วยยังพอใจผลการดำเนินธุรกิจจากผู้บริหารในไทยเป็นอย่างดี แต่ในอนาคตก็อาจตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งอาจจะมีการซื้อ-ขายหรือแลกเปลี่ยนหุ้นใดๆนั้น ถือเป็นนโยบายของคณะกรรมการ(บอร์ด)ผู้บริหารในบริษัทแม่ เช่นกัน