ลดเพดานคลื่น3จีเหลือ15เมกะเฮิร์ตซ

กทค.เคาะปรับเพดานคลื่นเหลือ 15 เมกะเฮิร์ตซ มั่นใจ 3 ค่ายมือถือไม่ฮั้วะ ชี้เอกชนยังต้องชิงตำแหน่งที่ดีที่สุด

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธาน รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. เปิดเผยว่า การประชุมบอร์ดกทค.วันที่ 15 ส.ค. มีมติปรับเพดานการถือครองคลื่นความถี่ (Spectrum Cap) จาก 20 เมกะเฮิร์ตซ เหลือ 15 เมกะเฮิร์ตซ ตามความต้องการที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์ โดยยังคงราคาเริ่มต้นการประมูลที่ใบละ 4,500 ล้านบาทเท่าเดิม

ทั้งนี้ แม้ว่าการปรับเพดานการถือครองคลื่นครั้งนี้ ส่งผลให้คลื่นความถี่ที่มีอยู่ 45 เมกะเฮิร์ตซ สามารถแบ่งลงตัวให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีอยู่ 3 รายในปัจจุบัน คือ รายละ 3 ใบ หรือ 15 เมกะเฮิร์ตซ แต่ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการกักตุนคลื่นความถี่ที่มากเกินไป เพราะผู้ให้บริการแสดงความจำนงชัดเจนว่าต้องการแค่ 15 เมกะเฮิร์ตซเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องกำหนดเพดานที่สูงเกินไป และมั่นใจว่าการแข่งขันเรื่องการประมูลยังคงเกิดขึ้นเหมือนเดิม

“ที่ตั้งเป้าสูงสุด คือ มีผู้เข้าร่วมประมูล 5 ราย แต่หากมีแค่ 3 รายก็ก็มั่นใจว่าไม่มีฮั้วะกันแน่นอน เพราะแต่ละรายยังต้องการเลือกย่านความถี่ที่ดีที่สุด เพื่อช่วยลดต้นทุนในการลงทุน ดังนั้น แม้มีเพียง 3 รายที่เข้าร่วมประมูล การแข่งขันก็ยังคงมีอยู่ เพราะผู้ที่เสนอราคาสูงสุดจะได้สิทธิ์เลือกก่อน” พ.อ.เศรษฐพงค์กล่าว

สำหรับราคาการประมูลจะขยับขึ้นครั้งละ 5% หรือ 200 ล้านบาท และกทค.ยังได้ขยายระยะเวลาการชำระเงินงวดแรกจาก 45 วันเป็น 90 วัน โดยเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลเพื่อประมูลใบอนุญาต 3 จี 2.1 กิกะเฮิร์ตซ ครั้งนี้จะเสนอให้บอร์ดชุดใหญ่อนุมัติวันที่ 22 ส.ค. คาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสิ้นเดือน ส.ค. และเปิดประมูลได้กลางเดือน ต.ค.

ขณะที่เรื่องการเรียกคืนคลื่นความถี่ 1800  เมกะเฮิร์ตซ จาก บริษัท กสท โทรคมนาคม ที่ บริษัท ทรูมูฟ และ ดิจิตอลโฟน หรือ ดีพีซี จะหมดสัมปทานเดือน ก.ย.2556 กทค.ยืนยันว่าเป็นอำนาจที่กทค.สามารถเรียกคืนได้ทันที และ กทค.เตรียมแผนการเปิดประมูลคลื่นนี้ต่อไป  ซึ่งหากกสทฯ เห็นว่าต้องการถือครองคลื่นไว้ก่อน สามารถฟ้องศาลปกครองเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้  

นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอกชนเห็นด้วยที่กทค.ปรับลดเพดานการถือครองคลื่นลง เพื่อให้การใช้คลื่นความถี่เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนประเด็นการเลือกย่านความถี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะหากประมูลราคาเท่ากัน ผู้ให้บริการแต่ละรายสามารถใช้วิธีจับฉลากเพื่อเลือกช่วงคลื่นความถี่ได้