posttoday

โพลล์เผยนักเศรษฐศาสตร์ห่วงใช้งบทุจริต

14 สิงหาคม 2555

กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจพบนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ 57.8 % ห่วงทุจริตการใช้งบประมาณ 51.6 %

กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจพบนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ 57.8 % ห่วงทุจริตการใช้งบประมาณ  51.6 %

โพลล์เผยนักเศรษฐศาสตร์ห่วงใช้งบทุจริต

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 64 คน เรื่อง “พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 40.6 เชื่อว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ประมาณการไว้ที่ จำนวน 2,197,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 จากปีก่อน ขณะที่ร้อยละ 39.1 เชื่อว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ได้ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุลจำนวน 300,000 ล้านบาท นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 39.1 เห็นว่าน่าจะขาดดุลในจำนวนเงินที่ต่ำกว่านี้ ขณะที่ร้อยละ 35.9 เห็นว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสมแล้ว

สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับงบลงทุนจำนวน 448,938.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.7 ของวงเงินงบประมาณ นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 40.6 เห็นว่าสัดส่วนงบลงทุนต่อจีดีพีน่าจะสูงกว่านี้ โดยควรอยู่ที่ระดับร้อยละ 23.4 ของวงเงินงบประมาณรวม ขณะที่ร้อยละ 32.8 เห็นว่าเป็นระดับที่เหมาะสมแล้ว

ส่วนสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์กังวลมากที่สุดเกี่ยวกับการใช้งบประมาณคือ การทุจริตคอร์รัปชัน (ร้อยละ 57.8) การใช้งบประมาณในโครงการประชานิยม (ร้อยละ 20.3) และความไม่มีประสิทธิภาพในการใช้เงินงบประมาณ(ร้อยละ 12.5) สุดท้ายเมื่อถามว่าระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีกับความจำเป็นในการใช้เงินงบประมาณ อะไรมีความสำคัญมากกว่ากัน ณ สถานการณ์และบริบทปัจจัยต่างๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คิดเห็นร้อยละ 51.6 เห็นว่าควรให้ความสำคัญกับการใช้งบประมาณเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ มากกว่าการลดหนี้สาธารณะ

นอกจากนี้นักเศรษฐศาสตร์ยังได้ให้ข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดทำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ไว้ดังนี้

อันดับ 1 รัฐบาลควรคำนึงถึงประสิทธิภาพของการใช้เงิน มีการจัดลำดับความสำคัญของโครงการ และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ , อันดับ 2 รัฐบาลควรใช้งบประมาณเพื่อวัตถุประสงค์ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาการศึกษา มีการกระจายงบประมาณลงไปยังท้องถิ่นให้มากขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำรวมถึงช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุปสงค์ภายในประเทศด้วยอันดับ 3 รัฐบาลควรเร่งทำงบประมาณให้มีความสมดุล บริหารจัดการสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพี รวมถึงไม่ควรก่อหนี้มาใช้ในโครงการประชานิยม แต่ควรก่อหนี้มาใช้ในโครงการลงทุน