posttoday

สตาร์บัคส์ ผุด ร้านกาแฟเสิร์ฟอาหาร

09 สิงหาคม 2555

สตาร์บัคส์ ผุดร้านไดรฟ์ ทรู ร้านกาแฟเสิร์ฟอาหาร ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่รับเทรนด์ตลาดอาเซียนโต เล็งสยายปีกกรุงเทพ ภูธรปีนี้ 15 แห่ง หนุนรายได้ปีนี้โตกว่า 20%

สตาร์บัคส์ ผุดร้านไดรฟ์ ทรู ร้านกาแฟเสิร์ฟอาหาร ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่รับเทรนด์ตลาดอาเซียนโต เล็งสยายปีกกรุงเทพ ภูธรปีนี้ 15 แห่ง หนุนรายได้ปีนี้โตกว่า 20%  

นายเมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขยายสาขา โดยมีรูปแบบตบแต่งร้านกาแฟ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากขึ้น ล่าสุดได้เปิดร้าน 2 รูปแบบใหม่ ได้แก่ ไดร์ฟทรู สาขาพอร์โต ชิโน ย่านมหาชัย ถนนพระราม 2 รองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วในการสั่งซื้ออาหารโดยไม่ต้องจอดรถ

นอกจากนี้ได้เปิดร้านกาแฟพร้อมบริการอาหารภายในร้าน โดยมีร้านต้นแบบที่สาขาเอ็กเชนจ์ ทาวเวอร์ ถนนอโศก บนเนื้อที่ 110 ตารางเมตร หลังร้านกาแฟภายใต้แนวคิดการมีอาหารบริการภายในร้าน เบื้องต้นให้บริการ 13 เมนู เช่น พาสต้า สปาเก็ตตี้ เป็นต้น  หลังจากโมเดลร้านดังกล่าวมีผลตอบรับที่ดีจากประเทศ สิงคโปร์ เกาหลี มาเลเซีย ฮ่องกง ขณะที่ร้านภายในตึกเอ็กเชนจ์ อยู่ระหว่างการติดตามกระแสตอบรับของกลุ่มลูกค้า

สำหรับแผนการขยายสาขาร้านสตาร์บัคส์ปีนี้ เตรียมขยายสาขาประมาณ 15 สาขา ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด โดยพื้นที่ในกรุงเทพเน้นขยายสาขาเข้าคอมมิวนิตี้มอลล์ ส่วนสาขาต่างจังหวัดมีแผนขยายเข้าจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆซึ่งปัจจุบันได้เปิดที่จ.พิษณุโลก อุดรธานี

“บริษัทไม่ได้วางรูปแบบการเปิดร้านที่เฉพาะเจาะจง แต่จะเปลี่ยนรูปแบบตามความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ซึ่งรูปแบบและขนาดของร้านจะสอดรับกับสถานที่ต่างๆ ที่เปิดให้บริการ เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย “ นายดาร์ลิ่ง กล่าว

อย่างไรก็ตามการเปิดร้านกาแฟ พร้อมให้บริการอาหารภายในร้าน เป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ มากกว่าจะใช้เป็นกลยุทธ์หลักทางการแข่งขัน ซึ่งบริษัทจะมุ่งการพัฒนารสชาดกาแฟให้มีคุณภาพเป็นจุดขายหลัก

นายดาร์ลิ่ง กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกสว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคาดว่าจะเติบโตกว่า 20% จากเป้าหมายที่ตั้งเป้า 15% เนื่องจากมีลูกค้าเก่าและใหม่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น หลังมีการทำตลาดในประเทศไทยกว่า 14 ปี ซึ่งประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย รองจากญี่ปุ่นและเกาหลี ตามลำดับ