posttoday

ผนึกกำลังพันธมิตรโบรเคดปักธงตลาดเอเชีย

09 สิงหาคม 2555

การใช้งานโครงข่ายในปัจจุบัน คือหัวใจของการสื่อสาร ทั้งระหว่างบุคคลและระหว่างองค์กร

โดย...พรหมเมศร์ ศิริสุขวัฒนานนท์

การใช้งานโครงข่ายในปัจจุบัน คือหัวใจของการสื่อสาร ทั้งระหว่างบุคคลและระหว่างองค์กร ยิ่งต่อไปการใช้งานโครงข่ายจะยิ่งขยายตัวอย่างมหาศาล เนื่องจากแนวโน้มการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีการใช้งานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องชัดเจน โดยเฉพาะการเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ดึงกลุ่มคนเข้าสู่โลกออนไลน์จำนวนมาก เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ ที่มีประชากรใช้งานหลักร้อยล้านคน แต่สิ่งที่จะบริโภคแบนด์วิธของโครงข่ายมากที่สุด คือ วิดีโอ ทุกวันนี้มีคนแห่ใช้งานวิดีโอทั้งแบ่งปัน (แชร์) และเปิดดูอยู่ตลอดเวลา และคาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้า 90% ของแบนด์วิธที่มีการใช้จะมาจากวิดีโอ

การบริโภคโครงข่ายดังกล่าว ยังมีการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพาทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ยิ่งการทำงานและใช้งานแบบโมบิลิตีมากขึ้น เช่นเดียวกับการทำงานของสำนักงานต่างๆ ที่เป็นเวอร์ชวลไลเซชัน รวมถึงคลาวด์คอมพิวติง ทุกอย่างถูกเก็บไว้ที่ศูนย์ข้อมูล จะใช้งานอะไรก็ต้องดึงออกมาผ่านโครงข่าย เพื่อให้รองรับการใช้งานแบบทุกที่ ทุกเวลา ประเด็นนี้ทำให้การทำตลาดของผู้ให้บริการโครงข่ายมุ่งเป้าไปที่ กลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพราะมีข้อมูลจำนวนมาก กลุ่มเซอร์วิสโพรวายเดอร์ซึ่งจะไปให้บริการกับลูกค้ารายย่อยต่อ กลุ่มดาตาเซ็นเตอร์ที่ต้องให้บริการข้อมูลขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดยังมีเรื่องของการรักษาความปลอดภัย ที่เป็นปัจจัยหลักที่สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการหันมาเลือกวิธีการทำงานแบบนี้มากขึ้น และนั่นคือปัจจัยหลักที่ผู้ให้บริการโครงข่ายต้องคำนึงถึง

ผนึกกำลังพันธมิตรโบรเคดปักธงตลาดเอเชีย

 

ชาร์ลี ฟู รองประธาน ของโบรเคด เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า แนวทางของผู้ให้บริการโครงข่าย ต้องมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เอื้อต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา ทุกอย่างต้องง่าย สะดวกสำหรับผู้ใช้ต้องมีการนำซอฟต์แวร์มาบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นเป็นหนึ่งในจุดแข็งของโบรเคดที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการพัฒนาเทคโนโลยีอีเทอร์เน็ต แฟบริก ที่ช่วยให้การทำงานของโครงข่ายไม่ซับซ้อน รวดเร็ว และปลอดภัยขึ้น เมื่อผลที่ได้รับดีขึ้น ผู้ใช้ก็ตอบรับมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งตลาดที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็วเพื่อสนองต่อการใช้งาน เช่น การศึกษา สาธารณสุข เซอร์วิส โพรวายเดอร์ และรัฐบาล

“โบรเคดเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ให้บริการอุปกรณ์แซนสวิตช์ จนเป็นผู้ให้บริการที่แข็งแกร่งมาก และใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีมาพัฒนาเป็นโครงข่ายขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีการยอมรับและมีการเติบโตมาโดยตลอด” รองประธานของโบรเคด เอเชียแปซิฟิก กล่าว

แน่นอนว่าเมื่อมีอาวุธที่ร้ายกาจ โบรเคดให้ความสำคัญกับการสร้างพันธมิตรในทุกตลาด เพราะการจะเข้าถึงลูกค้าได้ การจะให้บริการและดูแลในระยะยาว พันธมิตรคือส่วนที่สำคัญที่สุด ต้องมีการให้ความรู้ ให้การช่วยเหลือ และบริหารความสัมพันธ์อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ซึ่งโบรเคดได้มีการแบ่งระดับพันธมิตรเป็น 3 ระดับ คือ อีลิต เป็นขั้นสูงสุด พรีเมียร์ ระดับกลาง และซีเลค ในระดับเริ่มต้น โดยทั้งหมดไม่ได้วัดจากยอดขาย แต่วัดจากระดับทางเทคโนโลยี ถ้ามีวิศวกรที่ผ่านการฝึกอบรมทั้งทางออนไลน์และออนไซต์ มีการรับรองก็สามารถเป็นพันธมิตรในระดับสูงได้

ปัจจุบันลูกค้าของโบรเคด 25% มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและมีลูกค้าใหม่ๆ มาใช้บริการเพิ่มขึ้นประมาณ 35 รายต่อไตรมาส ประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด คือ จีนและออสเตรเลีย แน่นอนว่าแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจและการขยายตัวทางภาคธุรกิจมาที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก ดังนั้นโอกาสที่ลูกค้าจะขยายตัวมากกว่า 25% น่าจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากรัฐบาลยังมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ยังไปได้อีกไกล จึงไม่น่าแปลกใจที่หากไม่นับประเทศใหญ่ๆ อย่างจีน อินเดีย และออสเตรเลียแล้ว ไทย คือ กลุ่มแรกที่โบรเคดให้ความสนใจ

“โบรเคดมีผู้จัดการประจำประเทศไทย เพื่อทำการตลาดและดูแลพันธมิตรเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และกำลังเตรียมจัดตั้งสำนักงานอย่างเป็นทางการ จะมีทีมดูแลลูกค้าร่วมกับพันธมิตรได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าโบรเคดไม่ได้ลงไปแข่งขันด้านราคา ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก แต่จะเน้นที่นวัตกรรมที่แตกต่างและบริการที่มีคุณภาพ หากซื้อของถูกไป แต่ได้บริการไม่ดี การสื่อสารก็ไม่เกิดขึ้น” ฟู กล่าว

สำหรับอุปสรรคด้านเศรษฐกิจในอเมริกาซึ่งอยู่ในช่วงขาลงนั้น โบรเคดมองว่าเป็นสิ่งผลักดันให้โบรเคดต้องรุกตลาดอื่นๆ มากขึ้น ต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรให้มากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตชดเชยกับตลาดอเมริกาที่อยู่ในสภาวะชะลอตัว

ภาพรวมของประเทศไทยถือเป็นส่วนที่ผู้ผลิตเทคโนโลยีทั่วโลกกำลังจับตามอง แม้จะมีเรื่องการเมืองและภัยธรรมชาติเข้ามามีผลต่อความเชื่อมั่น แต่นั่นคือปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะสุดท้ายแล้วเทคโนโลยีก็ต้องก้าวต่อไป และต้อก้าวให้ทันประเทศอื่นๆ เพื่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะการเตรียมประมูลคลื่นความถี่และติดตั้งโครงข่าย 3จี ในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงการขยายไวไฟเพื่อให้บริการทั่วประเทศ นี่คือเค้กชิ้นใหญ่ของผู้ให้บริการโครงข่าย การแข่งขันจากนี้ไปสนุกแน่นอน เพราะปัจจัยนอกจากนวัตกรรมเทคโนโลยี บริการ และคุณภาพแล้ว เรื่องราคาก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้