ต้นทุนพุ่งทุบขายตรงอ่วม

กิฟฟารีนโอดต้นทุนวัตถุดิบ-ค่าจ้างพุ่ง ฉุดกำไรวูบ 10-20% เดินหน้าบุกอาเซียนรับเออีซี

นางนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรง “กิฟฟารีน” เปิดเผยว่า ปัจจัยด้านต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและค่าแรงงานที่ปรับขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของโดยรวมสูงขึ้นมาก แม้บริษัทจะปรับราคาสินค้าบางรายการ แต่ไม่สามารถชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ ทำให้ต้องปรับลดอัตรากำไรในปีนี้ลง 10-20%

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการปรับราคาสินค้ามากไปกว่านี้ โดยบริษัทได้ปรับราคาสินค้าไปประมาณ 10 รายการ จากทั้งหมด 2,000 รายการ และหันไปเน้นทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่าปีนี้ไม่น่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมเหมือนกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา จากการที่ภาครัฐและเอกชนเตรียมแผนป้องกันอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าขยายธุรกิจกิฟฟารีนในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ปัจจุบันกิฟฟารีนเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนได้แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา พม่า และมาเลเซีย และสิ้นปีนี้มีแผนขยายธุรกิจในอินโดนีเซีย ส่วนปีหน้าจะไปประเทศเวียดนาม เป็นต้น

“การเปิดเออีซีถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะสามารถนำเข้าวัตถุดิบ และแพ็กเกจจิงคุณภาพได้ในราคาที่ถูกลง แต่ในส่วนของการตั้งโรงงานในต่างประเทศนั้นบริษัทยังไม่มีแผน เนื่องจากการผลิตสินค้าเครื่องสำอาง และเสริมอาหารเป็นเรื่องละเอียดอ่อน” นางนลินี กล่าว

การขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนนั้น บริษัทจะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปปีละ 1 ประเทศ คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือในปี 2558 บริษัทจะมีรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท ขณะที่รายได้ของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,488 ล้านบาท