posttoday

คิวเอสรีเทลฯรุกหนักแฟชันเอาท์ดอร์

01 สิงหาคม 2555

คิวเอสรีเทลฯ รุกหนักแฟชันเอาท์ดอร์ ขนแบรนด์ใหม่ทยอยทำตลาด เสริมทัพ ‘ควิกซิลเวอร์ วูเมน’ บุกไทย

คิวเอสรีเทลฯ รุกหนักแฟชันเอาท์ดอร์ ขนแบรนด์ใหม่ทยอยทำตลาด เสริมทัพ "ควิกซิลเวอร์ วูเมน" บุกไทย

คิวเอสรีเทลฯรุกหนักแฟชันเอาท์ดอร์ สุรเชษฐ

นายสุรเชษฐ มุ้งทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัทคิวเอสรีเทล(ประเทศไทย) ผู้ทำตลาดสินค้าแฟชันกีฬากลางแจ้ง(เอาท์ดอร์) แบรนด์ควิกซิลเวอร์ ร็อกซี่ และแบรนด์ดีซี เปิดเผยว่าแผนธุรกิจบริษัทในไทยนับจากนี้ จะมุ่งนำเข้าสินค้าเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ตามนโยบายบริษัทแม่ใน สหรัฐอเมริกา ล่าสุดในปีนี้เปิดตัวแบรนด์ ‘ควิกซิลเวอร์ วูเมน’ เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ20-30 ปี ในไทย

ทั้งนี้แบรนด์ควิกซิลเวอร์ วูเมน มีกลุ่มสินค้าแบ่งสัดส่วนเป็น เสื้อผ้า80% และของใช้เครื่องประดับ 20% เพื่อต่อยอดแบรนด์ควิกซิลเวอร์ ที่อยู่ในตลาดไทยมานานกว่า 5ปี จับกลุ่มเป้าหมายหลักผู้ชายวัยรุ่นและวัยเริ่มต้นทำงาน ที่ชื่นชอบกิจกรรมกีฬากลางแจ้งทางน้ำ ส่วนแบรนด์ ร็อกซี่ จับกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงวัยรุ่น และในเดือนมี.ค.ปีหน้า เตรียมเปิดตัวสินค้าไลน์ใหม่ ควิกซิลเวอร์ วอเตอร์ แมน เพื่อขยายกลุ่มผู้ชายอายุ40ปีขึ้นไปด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างหาข้อสรุป เพื่อนำแบรนด์สินค้าสำหรับเด็ก คือ โทนี ฮอว์ค(TonyHawk) เข้ามาทำตลาดในไทยราวปีหน้า ซึ่งจะเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของบริษัทด้วย โดยเห็นโอกาสในตลาดเสื้อผ้าเด็กในไทยที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มเสื้อผ้าแฟชันทั่วไปที่แข็งแรงมาก ขณะที่กลุ่มเสื้อผ้าเอาท์ดอร์ ในปีนี้คาดเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

ขณะเดียวกัน บริษัทยังเห็นโอกาสการทำตลาดเสื้อผ้ากลุ่มนี้ในอนาคต ที่ปัจจุบันสินค้าเสื้อผ้าในเครือบริษัทมีราคาลดลงไปแล้วกว่า5-10% จากนโยบายบริษัทแม่ในสหรัฐฯ ที่ย้ายฐานการผลิตรวมไปอยู่ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย จากเดิมมีผลิตกระจายไปยังประเทศต่างๆ เช่น เม็กซิโก  ซึ่งทำให้ได้รับสิทธิทางภาษี และคุณภาพการผลิตด้านการพิมพ์ และวัตุดิบผ้าที่ดีขึ้น  

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี55 ไม่ต่ำกว่า130 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาต่างๆราว10-12 จุดขาย อาทิ ร้านควิกซิลเวอร์ ร่วมกับห้างโรบินสัน 3 จุดขาย, ร้าน ดีซี 3 จุดขาย พร้อมใช้งบราว 20 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดแบรนด์ ควิกซิลเวอร์ วูเมน โดยวางแผนเปิด1 แฟล็กชิปสโตร์ และอีก 4 จุดขาย ซึ่งจากแนวทางดังกล่าว คาดว่าจะทำให้บริษัทเติบโตขึ้น 25% มียอดขายกว่า 400 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทยังใช้งบ20 ล้านบาทจัดกิจกรรมการตลาด ‘ควิกซิลเวอร์ โอเพน ภูเก็ต ไทยแลนด์ 2012’ ระหว่างวันที่ 12-15 ก.ย.นี้ ณ หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ภายใต้แนวคิด เซิร์ฟ เอ็กซตรีม โดยจะมีนักกีฬาโต้คลื่นกว่า300คนทั่วโลก มาร่วมแข่งขัน พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ ควิกซิลเวอร์ วูเมน คือ สเตฟานี กิลมอร์ ซึ่งเป็นนักกีฬาโต้คลื่นหญิงระดับแชมป์โลกด้วย 

สำหรับผลดำเนินงานบริษัทในปีนี้(รอบบัญชีพ.ย.54-31ตค.55) ในไตรมาส1-2 ที่ผ่านมาเติบโต 20% ขณะที่ในไตรมาส3 (ธ.ค.54-ม.ค.55)พบว่ายอดขายตกลง โดยเฉพาะจุดขายในจังหวัดภูเก็ต จากสถานการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหว และความไม่ปลอดภัยของกลุ่มนักท่องเที่ยวในจังหวัดดังกล่าว ที่กระทบยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียที่เดินทางมายังไทยน้อยลง

ขณะที่ปัจจุบันตลาดรวมแฟชันเสื้อผ้าเอาท์ดอร์ในไทย คาดมีมูลค่ากว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตไม่สูงนัก ซึ่งหากนับรวมแบรนด์ต่างๆของบริษัททั้ง ควิกซิลเวอร์ ร็อกซี่ และดีซี รวมกันแล้วคาดมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40% โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักแบ่งเป็น กลุ่มคนไทย 70% และ ชาวต่างชาติ 30%  โดยปัจจุบัน ควิกซิลเวอร์ มียอดขายเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียนรองจาก อินโดนีเซียอันดับ1