posttoday

ค่าเอฟทีขยับกฟผ.ลุ้นต้องอุ้มค่าไฟ

30 กรกฎาคม 2555

กฟผ.ชี้ค่าเอฟทีงวดหน้า (ก.ย.-ต.ค.) ปรับสูงขึ้นตามต้นทุน ส่วนงวดนี้ยังรับภาระแทนประชาชน เล็งก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4 โรงใน จ.กระบี่

กฟผ.ชี้ค่าเอฟทีงวดหน้า (ก.ย.-ต.ค.) ปรับสูงขึ้นตามต้นทุน ส่วนงวดนี้ยังรับภาระแทนประชาชน เล็งก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4 โรงใน จ.กระบี่

นายสุเทพ ฉิมคล้าย ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวในงานเสวนา “ไฟฟ้าไทยในอนาคต” ว่า ต้นทุนค่าไฟฟ้าเอฟทีในงวดหน้า (ก.ย.-ต.ค.) จะปรับสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้น ตามราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6 เดือน ส่วนจะปรับขึ้นมากน้อยเท่าใดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)

สำหรับต้นทุนค่าไฟฟ้าเอฟทีในงวดนี้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระแทนประชาชนไปก่อนจำนวน 19สตางค์/หน่วย จากที่ต้นทุนปรับขึ้นจริง 57 สตางค์ รวมเป็นวงเงินที่รับภาระแทนประชาชน 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคงต้องรอมติ กกพ.ให้ชัดเจนว่าจะจ่ายคืน กฟผ.อย่างไร ขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลงในไตรมาส 2 ปีนี้ จะไปสะท้อนในต้นทุนค่าไฟฟ้าในงวดสุดท้ายปี 2556

นอกจากนี้ ควรพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าให้น้อยลง จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ถึง 70% จึงควรจะกระจายไปยังถ่านหินสะอาด ซึ่งมีสำรองถึง 200 ปี และต้นทุนถูกกว่า สามารถจัดการปัญหา|มลภาวะได้ ส่วนก๊าซในอ่าวไทยจะหมดลงในกว่า 10 ปีข้างหน้า และประเทศไทยต้องพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี)ซึ่งจะทำให้ค่าไฟปรับตัวสูงขึ้น

ด้านแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กฟผ.จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4 โรง รวม 3,200 เมกะวัตต์ โดยทั้งหมดจะสร้างในพื้นที่ภาคใต้ โรงแรกจะเข้าระบบปี 2562 อยู่ในพื้นที่โรงไฟฟ้ากระบี่ หลังจากนั้นจะทยอยเข้าระบบทุก 3 ปี ซึ่งสาเหตุที่เลือกในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคใต้เพิ่มสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปี