posttoday

ฟิชโชทุ่ม70ล.ปรับโฉมครั้งใหญ่

25 กรกฎาคม 2555

ฟิชโชปรับใหญ่14ปี วาดเป้า3ปีขึ้นอันดับ 2 ตลาดปลาเส้น เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่ปีหน้า สู้ศึกเออีซี

ฟิชโชปรับใหญ่14ปี วาดเป้า3ปีขึ้นอันดับ 2 ตลาดปลาเส้น เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่ปีหน้า สู้ศึกเออีซี

ฟิชโชทุ่ม70ล.ปรับโฉมครั้งใหญ่

นายวิชัย เอี่ยมแสงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทธีร์โฮลดิ้ง ผู้ผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรูปซีเล็คทูน่า และขนมขบเคี้ยวกลุ่มปลาเส้นแบรนด์ ‘ฟิชโช’ เปิดเผยว่าบริษัทใช้งบกว่า 70 ล้านบาท ปรับภาพลักษณ์ “ฟิชโช” ครั้งใหญ่ในรอบ14ปีภายใต้แนวคิด ปลาเส้นอารมรณ์ดี (แฮปปี สแน็ค) เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากตำแหน่งทางการตลาดเดิม คือ ฟิชโช โปรตีนสูง ไขมันต่ำ ซึ่งคล้ายคลึงกับสินค้าแบรนด์อื่นในตลาดแสน็คกลุ่มเดียวกัน

ทั้งนี้ บริษัทยังได้ปรับโลโกสินค้าใหม่ ใช้ชื่อแบรนด์ฟิชโชเป็นภาษาไทยหน้าซองจากเดิมภาษาอังกฤษ พร้อมปรับบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบซองฟอล์ยเมทัลไลท์ เพื่อยืดอายุสินค้าบนชั้นวางจำหน่ายในช่องทางร้านค้าปลีกดั้งเดิมได้นานขึ้น ซึ่งยังคงขนาดและวางราคาจำหน่ายเดิม แม้ต้นทุนในภาพรวมจะเพิ่มขึ้นซึ่งในส่วนของบริษัททียูเอฟ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและเป็นบริษัทแม่จะรับผิดชอบในด้านดังกล่าว 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้ปรับสูตรใหม่สินค้าตามความต้องการของผู้บริโภค โดยปัจจุบันฟิชโช มีสินค้ากว่า 50 รายการ จำนวน 4 แบบ คือ ปลาแผ่นอบกรอบ ปลาเส้น ปลาบด และ ปลากรอบ มี 6 รสชาติ ส่วนผลิตภัณฑ์ฟิชโชปลาแผ่นมี 5 รสชาติ  โดยฟิชโชปลากรอบ มี 3 รสชาติ ส่วนผลิตภัณฑ์ฟิชโชปลาบด มีให้เลือก 2 รสชาติ เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น  

ทั้งนี้ บริษัทยังเตรียมจัดกิจกรรมการตลาดภายใต้แคมเปญ “เซ็ง เซ็ง ก็สุขได้ หยิบ ฟิชโช” พร้อมโรดโชว์ผลิตภัณฑ์ใหม่ไปยังสถานศึกษาต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งจัดกิจกรรมสื่อออนไลน์ และแคมเปญโปรโมชันร่วมกับโรงภาพยนตร์และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เพื่อสื่อถึงแบรนด์ฟิชโชเป็นอาหารว่างที่รับประทานเมื่อไหร่รู้สุดอารมณ์ดีและเพลิดเพลิน

สำหรับแนวทางการทำตลาดดังกล่าว บริษัทคาดในสิ้นปีจะมียอดขายเติบโต20% จากปีก่อนอยู่ที่ 400 ล้านบาท และวางเป้าใน 3ปีมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 30% และเป็นอันดับ 2 ของตลาดสแน็คปลาเส้น ที่ปัจจุบันฟิชโชครองส่วนแบ่งอันดับ3 ราว 11% รองจาก เบนโตะ ครองส่วนแบ่งอันดับ2 ราว 25% และทาโร อันดับ 1 อยู่ที่ 50% โดยมีมูลค่าตลาดปลาเส้นรวมกว่า 3,000 ล้านบาท เติบโต12-15% จากตลาดแสน็ครวมมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาทโต8-10% ในปีก่อน

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้าขนมขบเคี้ยวรายการใหม่ในกลุ่มที่มีศักยภาพ เช่น ขนมขึ้นรูป หรือ กลุ่มแปรรูปจากทะเล(ซีแสน็ค) ซึ่งตลาดนี้ยังมีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต คาดพร้อมเปิดตัวภายใน1ปีเศษนับจากนี้ ส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน(เออีซี)ในปี58 ซึ่งคาดว่าจะมีสินค้าสแน็คจากอาเซียนเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น และผลักดันให้ตลาดสแน็คในไทยเติบโต2หลักต่อเนื่องทุกปี โดยบริษัทวางเป้าส่งออกใน3ปีจากนี้เพิ่มเป็น10% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 5%