อาร์สยามเร่งสร้างแบรนด์ต่อยอดธุรกิจฯ

อาร์สยาม เร่งสร้างแบรนด์สบายดี ต่อยอดธุรกิจสื่อครบวงจร ทุ่ม30 ล้าน สวมสิทธิ์คลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 88.5

นายศุภชัย นิลวรรณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานเพลงลูกทุ่ง/ธุรกิจเพลง บริษัทอาร์เอส และกรรมการผู้จัดค่ายเพลงอาร์ สยาม เปิดเผยว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจ ‘อาร์สยาม’ จะมุ่งสร้างแบรนด์ ‘สบายดี’ เพื่อเข้าสู่ธุรกิจสื่อครบวงจรมากขึ้น จากปัจจุบันเปิดให้บริการช่องเคเบิลทีวี ‘สบายดี ทีวี’ ตั้งแต่3ปีก่อน ล่าสุดปีนี้ใช้งบลงทุน 30 ล้านบาทแตกธุรกิจใหม่รายการวิทยุ ‘สบายดี เรดิโอ เอฟเอ็ม 88.5’

ศุภชัย

ทั้งนี้ บริษัทใช้วิธีการสวมสิทธิ์จากคลื่นเดิมที่มีอยู่ จากผู้รับสิทธิ์สัมปทานคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 88.5 ในปัจจุบัน คือ บริษัทมีเดีย เลิฟเวอร์ เจ้าของรายการลูกทุ่งไทยแลนด์พลัสเดิม ที่ปัจจุบันมี สท.ร.เป็นเจ้าของคลื่นดังกล่าว เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทางธุรกิจจากการเรียนคืนสัมปทานคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งปัจจุบันคลื่นเอฟเอ็ม 88.5 ยังมีอายุสัมปทานเหลืออยู่ราว1ปีครึ่งจากอายุสัมปทาน2ปี โดยบริษัทคาดถึงจุดคุ้มทุนธุรกิจดังกล่วในสิ้นปี55นี้

สำหรับการรุกธุรกิจวิทยุดังกล่าว เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ในรูปแบบการฟัง จากฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่รับชมรายการเพลงลูกทุ่ง ผ่านรายการสบายดี ทีวี ซึ่งมีการเติบโตของเรทติงสูงต่อเนื่อง ที่ปัจจุบันมีเรทติงอันดับ3ในเคเบิลทีวี โดยบริษัทเห็นว่าเป็นโอกาสทองของตลาดเพลงลูกทุ่งคลื่นเอฟเอ็ม ในกรุงเทพฯ ที่ขยายตัวมากขึ้น ที่ปัจจุบันมี 4 คลื่นวิทยุเอฟเอ็มเพลงลูกทุ่ง หลัก คือ 88.5เอฟเอ็ม, 93เอฟเอ็ม,94.5 เอฟเอ็ม และเอฟเอ็ม 95 อ.ส.ม.ท. 

อย่างไรก็ตามบริษัท มีความสนใจประมูลคลื่นวิทยุใหม่ในอนาคตเช่นกัน แม้ในปัจจุบันกสทช.จะดำเนินการเรียกคลื่นวิทยุคืนกลับไป ซึ่งบริษัทไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าวมากนัก รวมถึงการที่ตลาดธุรกิจรายการเพลงวิทยุจะเติบโตลดลงมาก็ตาม แต่อาร์สยามมองเห็นเป็นโอกาสในการเป็นผู้ให้บริการค่ายเพลงลูกทุ่งที่มีความครบวงจรทุกช่องทางแบบจุดเดียว หรือ ‘วัน-สต็อป-เซอร์วิสเซส’ในตลาดเพลงลูกทุ่ง

ขณะที่แผนธุรกิจในปี56 บริษัทเตรียมงบลงทุนราว 40-60 ล้านบาท เพื่อเปิดให้บริการเคเบิลทีวี ช่องใหม่ เพื่อกระจายคอนเทนต์ประเภทต่างๆที่มีอยู่จำนวนมากออกไปยังผู้บริโภคระดับรากหญ้ามากขึ้น รวมถึงวางแผนขยายตลาดเพลงลูกทุ่งไปในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจในลาว และกัมพูชา เพื่อเป็นผู้รับลิขสิทธิ์ และการดาวน์โหลดเพลง คาดเจรจาธุรกิจแล้วเสร็จภายในสื้นปีนี้

จากปัจจุบันรายการสบายดี ทีวี ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศลาวอยู่แล้ว ซึ่งการขยายตลาดไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะสื่อบันเทิงมองว่า ลาวจะเป็นประเทศที่เร็วที่สุด จากภาษาที่ใกล้ชิดกัน จากนั้นคาดจะเป็นตลาดกัมพูชา หรือพม่า เป็นลำดับต่อไป  ด้วยตลาดบันเทิงมีความคึกคักมากขึ้น” นายศุภชัย กล่าว

สำหรับปีนี้ อาร์สยามวางเป้าหมายรายได้รวม 760 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 330 ล้านบาท เป็นไปตามเป้า  จากปีก่อนมีรายได้ราว 573 ล้านบาท โดยมีโครงสร้างรายได้จากหน่วยธุรกิจต่างๆ คือ กลุ่มเพลง, สื่อ, โชว์บิซ, การตลาดการวางแผนสื่อ เป็นต้น จากปัจจุบันตลาดเพลงลูกทุ่งมีมูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มดิจิตอล 1,200 ล้านบาท และกลุ่มศิลปิน(ฟิซิคัล) 1,300 ล้านบาท โดยอาร์สยามครองส่วนแบ่งตลาดรวม 20%