ประชานิยมพ่นพิษต้องเพิ่มทุนให้ธกส.

คลังเตรียมกระเป๋าฉีก จ่ายเงินชดเชยรับจำนำสินค้าเกษตร 13 โครงการ

นางสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันที่ 25 ก.ค.นี้ จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลรับจำนำสินค้าเกษตรเพื่อจะปิดโครงการที่ดำเนินการ ย้อนหลังตั้งแต่ฤดูกาลผลิต 2547/2548 ถึงปี 2551/2552 รวม 13 โครงการ

ทั้งนี้ เป็นโครงการจำนำข้าว 11 โครงการ โครงการมันสำปะหลัง 1 โครงการ และข้าวโพด 1 โครงการ ที่ยังมีผลผลิตตกค้างในโกดังและยังไม่มีการจำหน่าย สำหรับโครงการจำนำข้าว 11 โครงการ ยังเหลือข้าวในโกดังประมาณเกือบ 1 ล้านตัน ซึ่งข้าวส่วนนี้เก็บไว้นานแล้ว อาจจะเสื่อมคุณภาพ

สำหรับข้าวโพดเหลือในโกดังประมาณ 9.4 หมื่นตัน และมันเหลืออีกประมาณ 2.7 แสนตัน ซึ่งส่วนนี้คงต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ายังมีผลผลิตเหลือตามจำนวนที่ระบุไว้หรือไม่ และคุณภาพยังดีพอจะจำหน่ายได้หรือไม่ จึงจะทราบว่าต้องใช้เงินงบประมาณชดเชยขาดทุนเท่าไร

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.ค.คลังจะเสนอขอเพิ่มทุนจดทะเบียนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1 หมื่นล้านบาท จาก 5 หมื่นล้านบาท เป็น 6 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสินเชื่อในโครงการของรัฐ

กระทรวงการคลัง รายงานว่า ธ.ก.ส.ขยายวงเงินสินเชื่อทุกปี โดยปี 2554 มีสินเชื่อใหม่ 4.93 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมสินเชื่อโครงการจำนำสินค้าเกษตร 1.38 แสนล้านบาท โดย ณ สิ้นงวดปีบัญชี 2554 ธ.ก.ส.มีสินเชื่อรวม 7.75 แสนล้านบาท ระดับบีไอเอสอยู่ที่ 10.37% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยธนาคารพาณิชย์

สำนักงบประมาณให้ความเห็นว่า การเพิ่มทุนจะทำให้ ธ.ก.ส.ขยายสินเชื่อโครงการตามนโยบายรัฐได้ทั่วถึง โดยเฉพาะการขยายสินเชื่อสู่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ