โค้กชู2ปัจจัยดันยอดครึ่งปีโต18%

โค้กชี้ 2ปัจัยความเชื่อมั่นผู้บริโภค-กิจกรรมตลาดครบวงจร ดันยอดขายครึ่งปีแรกโต 18%

นายธิติ ตวงสิทธิตานนท์ ผู้จัดการการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์โคคา-โคลา บริษัทโคคา-โคลา(ประเทศไทย)เจ้าของและผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมโค้ก,แฟนต้า,สไปร์ท ฯลฯ เปิดเผยว่าผลประกอบการธุรกิจในภาพรวมบริษัท ช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ มีอัตราเติบโตกว่า18% คาดมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ผลักดันกำลังซื้อกลุ่มวัยรุ่น  และ2.กิจกรรมตลาดครบวงจรตั้งแต่ต้นปี

ขณะที่การเติบโตของบริษัทในช่วงที่ผ่านมายังเกินเป้าหมายที่วางไว้เดิม 10% ซึ่งการเติบโต2หลักดังกล่าวเป็นอัตราเดียวกับเมื่อ2ปีก่อนหรือในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก 2010และโตกว่าภาพรวมรวมตลาดน้ำอัดลมมูลค่ากว่า 38,800 ล้านบาท ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ปีนี้อยู่ที่12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน รวมถึงจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดที่ผลักดันให้ตลาดรวมน้ำอัดลมในปีนี้เติบโตมากกว่าปีก่อนเช่นกัน

สำหรับปีนี้ บริษัทใช้งบการทำตลาดผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม‘โค้ก’ราว 400 ล้านบาท ล่าสุดในไตรมาส 3นี้ ใช้งบ 150 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญใหม่ในเฟส2 ใน คือ ‘ต้องซ่า ต้องกล้า ต้องโค้ก’ ปลุกพลังความซ่าให้วัยรุ่น พร้อมเปิดตัวทูตผลิตภัณฑ์(แบรนด์ แอมบาสเดอร์) คนล่าสุด คือ ‘แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์’ เพื่อขยายฐานผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น โดยจะร่วมแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภค1ล้านคนด้วย

“นอกจากสภาพอากาศที่อำนวยให้ตลาดรวมเติบโตในทิศทางดีแล้ว ในช่วงต้นปียังมีเรื่องความเชื่อมั่นผู้บริโภคเข้ามาเกี่ยวข้องที่เข้ากระตุ้นกำลังซื้อกลุ่มวัยรุ่นในตลาดช่วง 6เดือนแรกปีนี้ด้วย”นายธิติกล่าว

ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวม(คอร์ปอเรท แชร์) ในเดือนม.ค.-พ.ค.อยู่ที่ 54% ซึ่งมาจากหลายปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทมีการเติบโต โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างพันธมิตรธุรกิจบริษัทไทยน้ำทิพย์ และบริษัทหาดทิพย์ ที่สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคในทุกพื้นที่การทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้บริษัทยังใช้แคมเปญการตลาดระดับโลกภายใต้หลักหรือ ธีมเดียวกัน คือ ‘เปิดความสุขให้ชีวิต’ ซึ่งเป็นแคมเปญการตลาดการคิดบวก ที่จะเปิดตัวทั้ง 3 เฟสในปีนี้ พร้อมใช้กลยุทธ์การสื่อสารตลาดแบบครบวงจร ที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันผู้บริโภค เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ ทั้งชาญและหญิง จากปัจจุบันโค้ก มีสัดส่วนกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นกว่า 50% 

นอกจากนี้ แบรนด์โค้ก ยังร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการในมหกรรมกีฬาโอลิมปิค 2012 ที่เตรียมจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ด้วย โดยบริษัทแม่จะจะมีกิจกรรมหลักอยู่ในประเทศดังกล่าวมากกว่า การจัดกิจกรรมภายในประเทศ ซึ่งในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทคาดว่าจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและความเชื่อมั่นในกำลังซื้อผู้บริโคที่มีต่อเนื่อง คาดผลักดันให้บริษัทมีอัตราเติบโตในภาพรวมทั้งปี 15-20%

ขณะที่บริษัทคาดว่า ในสิ้นปี55 จะมีส่วนแบ่งตลาดรวมน้ำอัดลมอยู่ที่ 54% จากเมื่อปี54 มีส่วนแบ่งตลาดรวม 50.7% โดยในช่วงครึ่งหลังปีก่อนมีส่วนแบ่งประมาณ 48% ซึ่งภาพรวมตลาดรน้ำอัดลมในปีนี้ คาดมีอัตราเติบโตดีเช่นกันประมาณ 12% จากปีก่อนตลาดรวมไม่เติบโต โดยแบ่งสัดส่วนเป็นตลาดน้ำดำ 70-75% และกลุ่มน้ำสีอยู่ที่ประมาณ 25-30%