posttoday

ทูน่ากระป๋องอ้อนรัฐช่วย

16 กรกฎาคม 2555

ผู้ผลิตทูน่าโอดขาดแคลนวัตถุดิบ-แรงงานหนัก แต่ส่งออก 6 เดือนแรกยังรุ่ง ด้านธีร์ โฮลดิ้ง ส่งซีเล็ค ทูน่าบุกอาเซียน

ผู้ผลิตทูน่าโอดขาดแคลนวัตถุดิบ-แรงงานหนัก แต่ส่งออก 6 เดือนแรกยังรุ่ง ด้านธีร์ โฮลดิ้ง ส่งซีเล็ค ทูน่าบุกอาเซียน

นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ ประธานกลุ่มผู้ผลิตปลาทูน่า สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องกำลังเจอปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและแรงงานอย่างหนัก โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2555) ปลาทูน่าที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปลาทูน่ากระป๋องลดลงถึง 25% เหลือใช้เดือนละ 5.5 หมื่นตัน จากปกติใช้ปลาทูน่าเดือนละ 7 หมื่นตัน

ทูน่ากระป๋องอ้อนรัฐช่วย

ดังนั้น จึงต้องการให้ภาครัฐ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ช่วยผู้ประกอบการด้วยการหาแหล่งปลาทูน่าใหม่ๆ เพื่อนำเข้าปลาทูน่าในลักษณะวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูปมาแปรรูปเป็นปลาทูน่ากระป๋อง

ทั้งนี้ หากแก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนวัตถุดิบและแรงงานได้ คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมแปรรูปปลาทูน่ากระป๋องเติบโต 20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 15% จากมูลค่าส่งออกเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยปีก่อนมูลค่าส่งออกปลาทูน่ากระป๋องอยู่ที่ 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท

สำหรับวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปไม่กระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋อง เห็นได้จากยอดส่งออกช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เติบโต 10% จากปีก่อน หรือมีมูลค่าส่งออก 3.5 หมื่นล้านบาท โดยราคาปลาทูน่าปรับขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000-2,100 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1,600-1,700 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ปัจจุบัน ไทยส่งออกปลาทูน่ากระป๋องไปยังประเทศยุโรป 9% อเมริกาเหนือ 20% ออสเตรเลียและญี่ปุ่น 20% แอฟริกา 16% ที่เหลือกระจายไปยัง 200 ประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องมีแผนใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพทั้งแหล่งวัตถุดิบและแรงงานอย่างอินโดนีเซีย กัมพูชา และพม่า โดยเริ่มเจรจาเพื่อไปตั้งโรงงานผลิตวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป ก่อนส่งเข้ามาแปรรูปเป็นปลาทูน่ากระป๋องเพื่อส่งออกในประเทศไทย คาดว่าน่าจะเห็นเป็นรูปร่างชัดเจนภายใน 2 ปีนี้

นายวิชัย เอี่ยมแสงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีร์ โฮลดิ้ง ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ซีเล็ค ทูน่า กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทไม่มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ เนื่องจากบริษัทแม่คือไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ เป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่และมีแหล่งวัตถุดิบกระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งปีนี้อัตราการเติบโตในประเทศคาดว่าจะเติบโตกว่า 20% จากมูลค่ารวม 600-700 ล้านบาทในปัจจุบัน คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท

สำหรับบริษัทได้รุกทำกิจกรรมการตลาดครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ด้วยการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ซีเล็ค ทูน่า โดยใช้งบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งรองรับการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนหลังเปิดเออีซีในอีก 3 ปีข้างหน้า