posttoday

กบง.ลดเก็บเงินดีเซลเข้ากองทุนฯ 50 สต.

12 กรกฎาคม 2555

 กบง.อั้นดีเซลขยับทะลุ30บาทสั่งลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯลง50สต./ลิตร ส่งผลรายได้กองทุนนำมันฯไหลเข้าเหลือวันละ148ล้านบาทจากเดิมวันละ177ล้านบาท

นายอารักษ์  ชลธาร์นนท์  รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมกบง.มีมติให้ปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากดีเซลลง 50 สต./ลิตรจากปัจจุบันจัดเก็บอยู่ 2บาท/ลิตร เหลือ 1.50 บาท/ลิตร เนื่องจากระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งผู้ค้าน้ำมันส่วนใหญ่เตรียมปรับขึ้นราคาขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซล

การปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯจากดีเซลลงครั้งนี้เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เปลี่ยนแปลงตามราคาตลาดโลกซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนภาคขนส่ง ค่าโดยสารและอัตราเงินเฟ้อ  แต่จะทำให้รายได้กองทุนน้ำมันฯลดลงจากเดิมวันละ177 ล้านบาทเหลือ 148 ล้านบาท/วัน   โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯล่าสุดติดลบอยู่  1.7 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. เห็นชอบในหลักการให้เลื่อนกำหนดการยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 ออกไปอีก 3 เดือนจากเดิมกำหนดที่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1  ต.ค. 2555  เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมันบางจากทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมันเบนซินพื้นฐานที่มีไว้ผลิตแก๊สโซฮอล์

และใช้กลไกราคาในการปรับความต้องการน้ำมันกลุ่มเบนซินแต่ละเกรดให้สมดุลกับความสามารถในการผลิตของโรงกลั่นในประเทศ โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาต่อไป

นายอารักษ์  กล่าวถึงนโยบายบัตรเครดิตพลังงานว่า ทางกระทรวงพลังงานจะมีการทบทวนสิทธิประโยชน์และขยายประเภทผู้มีสิทธิ์ใช้บัตรให้มากขึ้น เช่นรถโดยสาร  มอเตอร์ไซค์รับจ้าง  รถสองแถวสาธารณะ เป็นต้น  เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้บัตรอย่างมีประสิทธิภาพ  ขณะเดียวกันจะประสานกับธนาคารรัฐให้เข้ามารับหน้าที่ออกบัตรและบริหารจัดการทั้งหมดจากเดิมที่เป็นบริษัทปตท.   โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้

ด้านนายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.  กล่าว่า ปตท.ได้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 50 สต./ลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงถึง 4.7 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 378.2 ล้านบาร์เรล รวมทั้งการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปคในเดือนมิ.ยที่ผ่านมาลดลง 1.06  แสนบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ระดับ 31.363 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปริมาณการผลิตน้ำมันของอิหร่านที่ลดลงจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ประกอบกับความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคเอเชียเพิ่มสูงขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิม ส่งผลให้ค่าการตลาดในวันนี้ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยค่าการตลาดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 1.11 บาท/ลิตร ดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ 0.96 บาท/ลิตร และเฉลี่ยรวมเหลืออยู่เพียง 1.00 บาท/ลิตร