posttoday

ททท.ดึงประกันฯนอกดันไทยเป็นฮับสุขภาพ

10 กรกฎาคม 2555

ททท. นิวยอร์กสบช่องนโยบายรัฐมะกันกระทุ้งคนประกันสุขภาพ ชูไทยเป็นเมดิคอลฮับ

ททท. นิวยอร์กสบช่องนโยบายรัฐมะกันกระทุ้งคนประกันสุขภาพ ชูไทยเป็นเมดิคอลฮับ 

นางศรีสุดา วนภิญโญศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนิวยอร์ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทประกันหลายบริษัท ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ผู้ทำประกันเดินทางมารักษาพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ครบวงจร และมีราคาถูกกว่าประเทศสหรัฐอเมริกา และเพื่อนบ้านใกล้เคียงประเทศไทย อย่างสิงคโปร์ ประกอบกับประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย รองรับนักท่องเที่ยว ภายหลังการตรวจรับบริการทางการแพทย์

ทั้งนี้การร่วมมือดังกล่าว เนื่องจาก นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีนโยบายให้คนในชาติทำประกันสุขภาพอย่างจริงจัง ททท.เห็นช่องทางและโอกาสทางการตลาดดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) สุขภาพของเอเชีย

“แนวทางการทำตลาดนิวยอร์กปี 2556 จะยืดหยุ่นและสอดคล้องกับนโยบายรัฐสหรัฐมากขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญที่จะเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบนมีกำลังซื้อสูงๆยังเดินทางท่องเที่ยวเป็นปกติ” นางศรีสุดา กล่าว   

นอกจากนี้เตรียมรุกตลาดฮันนีมูน โดยแต่ละปีคู่รักชาวอเมริกา แต่งงานประมาณ 2.1 ล้านคู่ และเป็นกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อสูงกว่านักท่องเที่ยวปกติ  3 เท่า และเป็นกลุ่มที่เลือกใช้บริการกับบริษัททัวร์ ทำให้การเดินทางในต่ละครั้ง สามารถกระจายรายได้ในวงกว้าง

อย่างไรก็ตามมองว่าแผนกลยุทธ์การท่องเที่ยวจะมีประสิทธิภาพ สามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาประเทศไทยได้มากน้อยเพียงใด ส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับการทุ่มเทงบประมาณการทำตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง

จากการเก็บสถิติการใช้งบประมาณการทำตลาดของประเทศต่างๆ พบว่า ประเทศอินเดียใช้งบด้านการท่องเที่ยว เฉลี่ยปีละ 11 ล้านเหรียญสหรัฐ เป้าหมายนักท่องเที่ยว 5 ล้านคน ประเทศออสเตรเลีย 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สาธารณรัฐประชาชนจีน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ประเทศไทยใช้ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 20 ล้านคน/ ปี   

ด้านนางภัทรพร สิทธิวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานกรุงปารีส ททท. กล่าวว่า แผนกลยุทธ์การตลาดปี 2556 จะเน้นการจับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับกลางและระดับบนที่ไม่ได้รับผลระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยมุ่งเจาะกลุ่มครอบครัว สตรี และผู้สูงอายุ รวมถึงตลาดเฉพาะ เช่น ฮันนีมูน ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กรุงเทพฯแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆได้มากขึ้น เป็นต้น