ฟิวเจอร์พาร์คฟื้นลงทุน3พันล.

ฟิวเจอร์ พาร์ค ฟื้นลงทุน3,000 ล้านบาท โครงการใหม่ส่วนต่อขยายเพิ่มพื้นที่ค้าปลีก 8 หมื่นตร.ม.

น.ส.พิมพ์ผา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัทรังสิตพลาซ่า ผู้บริหารศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เปิดเผยว่าบริษัท เตรียมทบทวนการลงทุนใหม่มูลค่า 3,000 ล้านบาทโครงการส่วนต่อขยายพื้นที่ค้าปลีกบนพื้นที่ 8หมื่นตร.ม. จากศูนย์ฯฟิวเจอร์พาร์ค จากปัจจุบันมีพื้นค้าปลีกรวมทั้งสิ้นราว 2.4 แสนตร.ม. ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวเลื่อนจากแผนเดิมในปลายปีก่อน

ทั้งนี้โครงการฯ ดังกล่าวพร้อมดำเนินการก่อสร้างได้ทันทีในปีนี้ หากไม่มีปัญหาน้ำท่วมใหญ่เกิดขึ้นซ้ำรอยเหมือนกับปีก่อน คาดจะแล้วสร็จภายใน 3ปี นับจากนี้ และจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น1,000 อัตรา โดยปัจจุบันมีผู้เช่าที่สนใจจองพื้นที่ค้าปลีก(เวทติง ลิสต์) กว่า 100 ราย ซึ่งโครงการฯ นี้หากแล้วเสร็จ ยังเพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการเปิดสู่เศรษฐกิจประชาคมอาเซียน(เออีซี) ในปี2558 นี้ด้วย

ขณะที่แหล่งเงินลงทุนโครงการฯ จะมาจากเงินกู้ธนาคาร-สถาบันการเงิน ราว 1,500 ล้านบาท และจะเพิ่มขนาดกองทุนฟิวเจอร์พาร์คอสังหาริมทรัพย์(ฟิวเจอร์พีเอฟ) คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท จากปัจจุบันกองทุนดังกล่าวมีมูลค่า 7,000 ล้านบท พร้อมขยายระยะเวลาสิทธิในการเช่าเพิ่มขึ้นอีก 15ปี จากเดิมเหลืออายุ 15ปี จากบีบีแอลเอเอ็ม

น.ส.พิมพ์ผกา กล่าวว่าสำหรับครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยที่น่าห่วงในการดำเนินธุรกิจ คือ ภัยพิบัติธรรมชาติ ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งบริษัทต้องการข้อมูลทีชัดเจนและแม่นยำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่เตรียมความพร้อมและรับมือได้ทันการณ์ โดยบริษัทใช้งบกว่า 300 ล้านบาท  ทำแนวกำแพงกั้นน้ำถาวรบนพื้นที่โยรอบ บริเวณด้านพหลโยธิน และรังสิต-นครนายก รวมความยาว 3กม.

สำหรับแนวกั้นน้ำดังกล่าว มีความสูงกว่าระดับน้ำปีก่อนราว30ซม. พร้อมเสริมผนังรางระบายน้ำสูง 80ซม.-1 เมตร คาดแล้วเสร็จราวต้นเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งในงบดังกล่าว ยังนำมาใช้เพื่อปรับปรุงระบบการจอดรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และรองรับรถยนต์เพิ่มได้อีก800 คัน รวมพื้นที่จอดรถ 8,000 คัน จากปัจจุบันมีปริมาณลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 1.5แสนคนต่อวัน ต่อเนื่องเทียบกับช่วงกันในปีก่อน

ทั้งนี้บริษัทเตรียงบตลาดทั้งปี 350 ล้านบาท โดยในครึ่งหลังปีนี้เตรียมใช้งบราว 200 ล้านบาท จัดกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขาย ไม่ต่ำกว่า 40 รายการ(อีเวนต์) ซึ่งหากในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ภาครัฐมีมาตรการป้องกันน้ำท่วมที่ได้ผลป้องกันไม่ให้ท่วมทะลักเข้าพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ และภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น มีกำลังซื้อต่อเนื่อง คาดสิ้นปีศูนย์ฯจะมีอัตราเติบโต26%