วางแผนยกเลิกใช้แร่ใยหิน1-5ปี

ร่างยกเลิกการใช้แร่ใยหินใน กำหนดเวลา 1-2 ปี ให้เลิกใช้สำหรับกระเบื้องยาง กระเบื้องแผ่นเรียบ ขณะที่กระเบื้องมุงหลังคา ท่อน้ำซีเมนต์ ผ้าเบก คลัทช์ ให้เลิกใช้ภายใน 5 ปี

นายจักรกฤษณ์ ศิวะเดชาเทพ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ผู้จัดการโครงการจัดทำร่างแผนยกเลิกการนำเข้า การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ เปิดเผยภายในการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ว่า แนวทางการยกเลิกจะมีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ผลิต และผู้บริโภคได้วางแผนการผลิตและการใช้ โดยเฉพาะในสินค้า 5 กลุ่ม ได้แก่ กระเบื้องยางปูพื้น กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องมุงหลังคา ท่อแรงดันสูง หรือท่อน้ำซีเมนต์ใยหิน และผ้าเบรก คลัทช์ เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบมาก และถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน

ทั้งนี้ ตามแผนการยกเลิก กลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องยางปูพื้น เป็นกลุ่มที่ผู้ผลิตสามารถยกเลิกการใช้แร่ใยหินได้แล้วบางส่วน ในช่วง 1-2 ปี จะกำหนดให้ต้องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้แร่ใยหิน และในปีที่ 3 ทุกโรงงานต้องปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีผลิตโดยไม่ใช้แร่ใยหินเลย กลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องแผ่นเรียบ มีหลายโรงงานเลิกใช้แร่ใยหินไปแล้ว จึงกำหนดระยะเวลาปรับตัวภายใน 3 ปี เช่นเดียวกัน โดยใน 1-2 ปีแรกกำหนดให้โรงงานที่ยังไม่ปรับเปลี่ยนต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่วนกลุ่มผู้ผลิตที่ไม่ใช้แล้วต้องพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น และในปีที่ 3 ทุกโรงงานต้องปรับเปลี่ยนเทคโนโยลี

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้องมุงหลังคา มีผู้ผลิตยกเลิกการใช้ไปแล้ว 2-3 ราย กลุ่มนี้กำหนดระยะเวลาการปรับตัว 5 ปี โดยใน 1-2 ปี จะต้องทำวิจัยพัฒนา ในปีที่ 3 กำหนดให้เลิกใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์กระเบื้องลอนใหญ่ และในช่วงปีที่ 3-5 จะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้แร่ใยหินในกระเบื้องลอนเล็ก และเมื่อครบ 5 ปี ทุกโรงงานต้องยกเลิกการใช้แร่ใยหินในกระเบื้องลอนเล็ก

กลุ่มผลิตภัณฑ์ท่อน้ำแรงดันสูง หรือท่อซีเมนต์ใยหิน ยังไม่มีโรงงานใดยกเลิกการใช้เลย ดังนั้นจึงกำหนดการเลิกใช้เป็นขั้นบันได ได้แก่ 1-2 ปี ให้ลดการใช้ลง 25% ปีที่ 3 ลดการใช้ 50% ปีที่ 4 ลดการใช้ 75% และปีที่ 5 ต้องลดการใช้ 100% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เบรกและคลัทช์ มีผู้ประกอบการบางรายยกเลิกใช้ไปแล้ว กำหนดเวลาปรับตัว 5 ปี โดยในปีที่ 1-2 วิจัยและพัฒนาลดการใช้ หาสารทดแทน และภายใน 2 ปี จะต้องยกเลิกใช้แร่ใยหินในผ้าเบรกและคลัทช์ในรถจักรยานยนต์ และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และภายในปีที่ 3-5 จะวิจัยและพัฒนาในกลุ่มของรถบรรทุก และรถโดยสารขนาดใหญ่ สิ้นสุดปีที่ 5 ผู้ผลิตทุกรายต้องยกเลิกการใช้

ทั้งนี้ การทำโครงการดังกล่าวได้ยึดตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2554 ที่ได้เห็นชอบให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน และได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปจัดทำแผนการยกเลิกการนำเข้าและการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้แร่ใยหิน ซึ่งร่างฉบับนี้จะนำไปปรับปรุงให้เหมาะสม และนำเสนอม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รมว.อุตสาหกรรม ให้นำเสนอครม.พิจารณาต่อไป

นายสมเกียรติ์ วงมาเจริญสิน ผู้อำนวยการสายธุรกิจหลังคา บริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ ผู้ผลิตหลังคา ตราห้าห่วง กล่าวว่า บริษัทเลิกใช้แร่ใยหินมาตั้งแต่ปี 25554 ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรมกระเบื้องมุงหลังคา ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ทำข้อตกลงร่วมกันลดการใช้แร่ใยหินภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งจะครบกำหนด 5 ปี ภายในปีนี้ โดยผู้ผลิตก็พร้อมใจกันเลิกใช้ แต่การศึกษากลับบอกว่าให้ยกเลิกในอีก 5 ปีข้างหน้า จึงมองว่าต้องการจะช่วยผู้ที่ยังไม่ยอมเลิก ส่วนกลุ่มที่เลิกใช้โดยสมัครใจไม่เคยมีมาตรการสนับสนุน 

นายอุฬาร เกรียวสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท กระเบื้องโอฬาร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการยกเลิกใช้ น่าจะให้ตลาดเป็นผู้ตัดสิน เพราะปัจจุบันมีการติดฉลากอยู่แล้วว่าผลิตภัณฑ์ไหนเลิกใช้แล้ว หรือยังใช้ แต่ประชาชนก็ยังเลือกซื้อกระเบื้องโอฬารมากอยู่ และหากกำหนดให้เลิกบริษัทคงต้องเลิกกิจการ จึงต้องกาให้ศึกษาอย่างชัดเจน เพราะส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค