"อารักษ์"เตรียม3แนวทางจัดหาน้ำมัน
รมว.พลังงาน ยันเพลิงไหม้ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ไม่กระทบต่อระบบการผลิตน้ำมัน เตรียม3มาตรการรองรับ
รมว.พลังงาน ยันเพลิงไหม้ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก ไม่กระทบต่อระบบการผลิตน้ำมัน เตรียม3มาตรการรองรับ
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศโดยยืนยันประชาชนจะมีน้ำมันใช้เพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน โดยกระทรวงพลังงาน ได้เตรียมมาตรการไว้รองรับ3 แนวทาง ได้แก่ 1. สั่งการให้บางจากนำน้ำมันสำรองที่มีอยู่มาใช้ โดยแบ่งเป็น น้ำมันเบนซิน สามารถใช้ได้อีก 16 วัน น้ำมันดีเซล สามารถใช้ได้อีก 9 วัน และ น้ำมันเตา สามารถใช้ได้อีก 24 วัน
2. ได้ขอความร่วมมือให้โรงกลั่นน้ำมันอื่นๆ เช่น บริษัท ไทยออยล์ และ บริษัท ไออาร์พีซี เพิ่มกำลังการผลิต โดยในเบื้องต้นจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 3 หมื่น 5 พัน บาร์เรลต่อวันและ
3. อนุญาตให้ผู้ค้าน้ำมันอื่น ที่รับน้ำมันจากโรงกลั่นบางจาก ได้แก่ บริษัท ปตท, บริษัท เซฟรอน และ บริษัท สยามเฆมี สามารถขอผ่อนผันนำน้ำมันสำรองที่มีอยู่มาใช้ได้
“กระทรวงพลังงาน ขอยืนยันว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมันบางจาก จะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปของประเทศ เพราะมาตรการต่างๆจะสามารถรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงที่หน่วยกลั่นที่ 3 ของโรงกลั่นบางจากต้องหยุดการผลิตประมาณ 1 เดือน โดยไม่กระทบต่อการจัดหาและความต้องการใช้น้ำมันของประเทศอย่างแน่นอน”นายอารักษ์กล่าว
นายอารักษ์ กล่าว ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นทั้งหมด 6 โรง ซึ่งปริมาณการกลั่นของบางจาก 9.9 หมื่นบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 9.9 % ของปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อปริมาณการผลิตน้ำมันโดยรวมของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีกำลังการผลิตจริงอยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกทั้งยังมีน้ำมันสำรองอย่างเพียงพอ ประกอบด้วย น้ำมันสำรองตามกฎหมายและน้ำมันสำรองเพื่อการค้าของผู้ค้าน้ำมันซึ่งจะสามารถรองรับผลกระทบดังกล่าวได้