posttoday

หวั่นอียูปรับสิทธิ์จีเอสพีฉุดส่งออกกุ้งไทย

29 มิถุนายน 2555

สมาคมกุ้งไทยชี้ปัญหาอียูจ่อปรับสิทธิ์จีเอสพีส่งผลวิกฤตกุ้งไทยฉุดภาคส่งออก

สมาคมกุ้งไทยชี้ปัญหาอียูจ่อปรับสิทธิ์จีเอสพีส่งผลวิกฤตกุ้งไทยฉุดภาคส่งออก

นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออกกุ้งของประเทศไทยในช่วง 4 เดือนแรกปี 2555 (มกราคม-เมษายน) มีปริมาณรวม 92,862 ตัน คิดเป็นมูลค่า 26,514 ล้านบาท ลดลงทั้งปริมาณและมูลค่า ที่ร้อยละ 10.31 และ 3.18 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่มีปริมาณ 103,533 ตัน และมูลค่า 27,385 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าลดลงของตลาดสหรัฐที่ลดลงกว่าร้อยละ 20

นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมกุ้งไทย นับจากนี้ถือว่า น่าเป็นห่วงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อสหภาพยุโรป (อียู) ได้ประกาศปรับเปลี่ยนเกณฑ์การให้สิทธิพิเศษทางศุลกากร (จีเอสพี) ตามที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอียูเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสินค้ากุ้งก็เป็น 1 ใน 57 สินค้าไทยที่ถูกตัดจีเอสพีระบบใหม่ เนื่องจากในอัตราภาษีใหม่ กุ้งดิบจะต้องเสียภาษีในอัตราเต็มที่ร้อยละ 12 จากที่ปัจจุบันเสียภาษีในอัตราร้อยละ 4.2  สำหรับสินค้ากุ้งสุกและกุ้งปรุงแต่ง จะต้องเสียภาษีในอัตราเต็มที่ร้อยละ 20 จากปัจจุบันเสียภาษีที่ร้อยละ 7 จากอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่สำคัญ อย่างมาเลเซีย ก็ทำเอฟทีเอกับอียูแล้ว ส่วนเวียดนาม อินเดีย จีน อินโดนีเซีย แม้จะยังไม่ได้ทำเอฟทีเอ แต่ก็มีอัตราภาษีที่ได้เปรียบกว่าไทย ”ขอฝากถึงภาครัฐ ให้ดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกวิถีทาง เพื่อให้ไทยสามารถแข่งขันได้  เพราะการใช้อัตราภาษีใหม่ มีโอกาสจะทำให้การส่งออกกุ้งของไทยไปตลาดอียูที่ปัจจุบันมีประมาณร้อยละ 20-25 ของการส่งออกทั้งหมด จะเหลือไม่ถึงร้อยละ 5  จึงอยากขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเจรจาเรื่องจีเอสพี ไม่ให้ไทยถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงสุดอยู่เพียงประเทศเดียว หรือดำเนินการเจรจาด้านเอฟทีเอกับอียูโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดผลร้ายแรงต่อความอยู่รอดของอุตสาหกรรมกุ้งไทย ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งและผู้เกี่ยวข้องในระบบกว่า 2 ล้านคนด้วย ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2540 ที่ไทยเป็นประเทศเดียวที่ถูกตัดสิทธิจีเอสพี และเหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยต้องเสียตลาดส่งออกกุ้งที่มีอยู่ให้กับประเทศคู่แข่ง โดยการส่งออกกุ้งในช่วงดังกล่าวลดเหลือแค่ไม่กี่ร้อยตัน จากที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดปริมาณ 30,000 ตัน.