อียูค้านห้ามต่างด้าวคุมกิจการโทรคมฯ
อียูโร่พบกสทช. เคลียร์ปมร่างประกาศต่างด้าว หวั่นนักลงทุนยุโรปเมินอุตฯโทรคมนาคมไทย
อียูโร่พบกสทช. เคลียร์ปมร่างประกาศต่างด้าว หวั่นนักลงทุนยุโรปเมินอุตฯโทรคมนาคมไทย
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า นายเดวิด ลิปแมน เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรป หรือ อียู ประจำประเทศไทยได้ส่งหนังสือถึงกสทช.เพื่อคัดค้านร่างประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ.... และจะเข้าพบ กสทช.ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวระบุว่า อียูมีความกังวลต่อประกาศฉบับนี้ 3 ข้อ คือ 1.ไม่สอดคล้องกับข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวของประเทศไทย ในประเด็นที่ร่างประกาศฉบับนี้นิยาม ห้ามต่างด้าวมีอำนาจควบคุมไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการกำหนดนโยบาย การบริหารจัดการ การแต่งตั้งกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง การถือหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงท การมีอำนาจวบคุมคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการประชุมผู้ถือหุ้น
ข้อ 2. ประเทศไทยได้จัดทำพันธกรณี หลักปฏิบัติเยี่ยงคนชาติ (National Treatment Commitment) สำหรับภาคส่วนย่อยต่างๆ ของบริการโทรคมนาคม ซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดการใช้มาตรการเลือกปฏิบัติ เช่น ที่ระบุวตามนิยามของคำว่า การครอบงำ ต่อผู้ให้บริการที่ลงทุนโดยคนต่างด้าว และในประกาศฉบับนี้ระบุว่าจะใช้บังคับโดยที่ไม่ขัดแย้งกับสนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรือ ควรสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ
ข้อ 3. ประกาศฉบับนี้มีความสำคัญในการวัดระดับการเปิดเสรีของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทย และ เป็นการกำหนดบรรทัดฐานในทางลบในการเปิดเสรีบริการทั้งหมดตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งอียูเกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศไทย จากการที่ประกาศดังกล่าวกำหนดเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจนสำหรับการร่วมลงทุนของคนต่างชาติในตลาดบริการของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดความครอบคลุมทางกฎหมายและการกระทำที่ไม่ส่งเสริมให้มีการลงทุนใหม่จากคนต่างชาติในภาคโทรคมนาคม ผู้ลงทุนชาวยุโรปในกิจการโทรคมนาคมทุกรายได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลักๆ ทั่วโลกที่มีข้อกำหนดให้เปิดเผยข้อมูล ดังนั้น จึงไม่มีผู้ประกอบการต่างชาติรายใดที่ยินดีที่จะลงทุนด้วยเงินทุนจำนวนมาก เทคโนโลยี และ ความรู้ความชำนาญในตลาดที่ยังไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิการเป็นเจ้าของที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นอกจากการส่งหนังสือถึงกสทช.แล้ว ทางอียูได้ส่งเอกสารดังกล่าวถึง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนากยกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที และ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ด้วย