posttoday

คนเมินแก๊สโซฮอล์ยอดใช้ร่วงหลังราคาน้ำมันลด

27 มิถุนายน 2555

น้ำมันขาลงส่งผลยอดใช้เบนซิน-ดีเซลเดือนพ.ค..ขยับขึ้น1-2% คนเมินแก๊สโซฮอล์ยอดใช้ลดลง ในขณะที่แอลพีจี-เอ็นจีวีการใช้เพิ่มขึ้นผลจากชะลอปรับขึ้นราคา3เดือน

น้ำมันขาลงส่งผลยอดใช้เบนซิน-ดีเซลเดือนพ.ค..ขยับขึ้น1-2% คนเมินแก๊สโซฮอล์ยอดใช้ลดลง ในขณะที่แอลพีจี-เอ็นจีวีการใช้เพิ่มขึ้นผลจากชะลอปรับขึ้นราคา3เดือน

นายวีระพล  จิรประดิษฐกุล   ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงเดือนพ.ค. 2555  ว่า  แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่องส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับลดลงหลายครั้ง ทำให้การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินปรับเพิ่มขึ้น 1%  โดยการใช้กลุ่มเบนซิน95อยู่ที่วันละ 1.1 แสนลิตร/วัน  และเบนซิน 91 อยู่ที่วันละ8.9 ล้านลิตร ในขณะที่การใช้น้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ปรับลดลง 2%  เกือบทุกประเภท  เนื่องจากประชาชนหันไปใช้เบนซินเพิ่มขึ้น

สำหรับดีเซลยอดใช้ปรับเพิ่มขึ้น 2%   หรือมีการใช้วันละ 56.5 ล้านลิตรเทียบกับเดือนเม.ย. เนื่องจากการปรับลดราคาขายปลีกหลายครั้งในประเทศทำให้มีราคาขายปลีกต่ำกว่า ลิตรละ  30 บาท  แต่เมื่อพิจารณาแล้วเป็นการใช้เพิ่มขึ้นที่ไม่มากนักเพราะในเดือนพ.ค. เป็นช่วงหมดฤดูพืชผลทางกาเกษตรและเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทำให้การขนส่งสินค้าและการเดินทางท่องเที่ยวลดลง

ด้านการใช้ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) เดือนพ.ค. อยูที่ 5.87 แสนตัน  ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนทุกภาคการใช้   ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มมาดำเนินการตามปกติหลังจากหยุดดำเนินการในช่วงสงกรานต์ ทำให้การใช้ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 18%  ประกอบกับกระทรวงพลังงานชะลการปรับเพิ่มราคาแอลพีจีภาคขนส่งออกไปอีก 3เดือน มีส่วนทำให้การใช้ภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 3%  ส่วนภาคครัวเรือนการใช้เพิ่มขึ้น 4%  และภาคปิโตรเคมีไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากโรงงานอุตสาหรรมปิโตรเคมีบางแห่งหยุดการผลิตช่วงเดือนเม.ย.ทำให้การนำเข้าแอลพีจีเดือนนี้อยู่ที่ 1.16 แสนตัน  ลดลงเทียบกับเดือนก่อนนำเข้าอยู่ 1.3 แสนตัน

ทั้งนี้การใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) อยูที่ 7.7ล้านก.ก./วัน เพิ่มขึ้นจาเดือนเม.ย.  7%   เนื่องจากโรงงานอุตสหากรรมที่ปิดดำเนินการในช่วงวันหยุดสงกรานต์กลับมาดำเนินการตามปกติ ในเดือนพ.ค. ทำให้รถบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่ที่ใช้เอ็นจีวีเริ่มกลับมาขนส่งสินค้าตามปกติ  รวมทั้งการตรึงราคาเอ็นจีวีไว้ที่ 10.50 บาท/ก.ก จากเดิมที่ต้องปรับขึ้นราคาทุกเดือนๆละ 50 สต./ก.ก.

นายวีระพล กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกว่า ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเดือนเม.ย. เนื่องจากนักลงทุนมีความเป็นห่วงต่อปัญหาหนี้ในยุโรป โดยเฉพาะกรีซและสเปน ทำให้เดือนพ.ค.ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงต่ำสุในรอบ8 เดือน ส่วนต้นเดือนมิ.ย. ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับลดลง จากปัญหาหนี้ในยุโรปเช่นเดิม ที่ยังไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหาทางการเมือง  โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 95-103 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล  และเวสเท็กซัส อยี่ 80-87 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล