เอไอเอสไม่หวั่นถูกโยงยึดทรัพย์-มั่นใจโปร่งใส
เอไอเอสไม่หวั่นถูกโยงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจทุกอย่างโปร่งใส ด้านเอกชนโทรคมนาคมรอความชัดเจนหลัง 26 ก.พ.
เอไอเอสไม่หวั่นถูกโยงคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท มั่นใจทุกอย่างโปร่งใส ด้านเอกชนโทรคมนาคมรอความชัดเจนหลัง 26 ก.พ.
นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า การตัดสินคีดยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทในวันนี้เป็นเรื่องของศาลอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่เกี่ยวกับบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจ และส่งผลกระทบต่อการซื้อหุ้นเอไอเอสในระยะสั้นๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ แม้เอไอเอสจะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวกับคดีนี้ แต่ไม่ได้มีความกังวลใดๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลดส่วนแบ่งสัมปทานระบบบบัตรเติมเงิน (พรีเพด) จาก 25% เหลือ 20% เป็นการกระทำที่อยู่บนพื้นฐานความจริงและเกิดขึ้นกับทุกบริษัทไม่ใช่เอไอเอสรายเดียว และการตัดสินใจลดส่วนแบ่งนั้นเกิดจากการที่ภาครัฐเห็นว่าระบบพรีเพดเป็นฐานการใช้งานที่เติบโตในอนาคต โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานเกือบ 90% ของจำนวนผู้ใช้มือถือ ทำให้รัฐมีรายได้มากขึ้น
ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม ที่หักจากส่วนแบ่งสัมปทาน 10% นั้น เอไอเอสทำตามนโยบายของภาครัฐที่กำหนด ซึ่งเอไอเอสไม่ได้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ลดลง เพียงแต่รัฐเปลี่ยนการเก็บเงินเข้าคลังโดยตรง ไม่ต้องผ่านจ้าของสัมปทาน ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว รายได้ทั้งหมดก็เป็นของรัฐอยู่ดี
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอุตสาหกรรมต่างรอความชัดเจนหลังวันที่ 26 ก.พ. อีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจว่าจะดำเนินแผนธุรกิจของตัวเองอย่างไร เพราะปัจจัยทางการเมืองมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอยู่แล้ว
รายงานข่าวจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น แจ้งว่า ระหว่างนี้ทรูยังไม่ได้มีการจัดกิจกรรมการตลาดใหญ่ใดๆ เพราะต้องการให้สถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนกว่านี้ก่อน
นายธนฑิต เจริญจันทร์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไทยคม ผู้ให้บริการดาวเทียมไทยคมและไอพีสตาร์ กล่าวว่า เรื่องเงินกู้ของไทยคมและ เอ็กซิมแบงก์ เป็นไปตามการกู้เงินจากสถาบันการเงินปกติ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการกู้เงินของพม่ากับเอ็กซิมแบงก์ ดังนั้น ไทยคมจึงไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากธุรกรรมทางการเงินของพม่าและเอ็กซิมแบงก์ ซึ่งหากวันที่ 26 ก.พ. มีเรื่องใดที่เชื่อมโยงกับไทยคม ทางบริษัทพร้อมที่จะชี้แจงอย่างเป็นทางการแน่นอน