posttoday

หอการค้าหวั่นน้ำท่วมทำส่งออกเจ๊ง

09 ธันวาคม 2554

หอการค้า ห่วงน้ำท่วมทำส่งออกไทยเจ๊ง จี้รัฐสร้างความเชื่อมั่นคู่ค้าด่วน เหตุต่างชาติทิ้งฐานทำเอสเอ็มอีเคว้ง คาดส่งออกปีหน้าโตแค่ 10%

หอการค้า ห่วงน้ำท่วมทำส่งออกไทยเจ๊ง จี้รัฐสร้างความเชื่อมั่นคู่ค้าด่วน เหตุต่างชาติทิ้งฐานทำเอสเอ็มอีเคว้ง คาดส่งออกปีหน้าโตแค่ 10%

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่กระทบต่อภาคการส่งออกของไทย จะทำให้ห่วงโซ่การผลิตของประเทศได้รับผลกระทบในระยะยาว และนำไปสู่ให้นักลงทุนต่างชาติต้องย้ายฐานการผลิตออกจากไทยไปในที่สุด จึงต้องการให้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศคู่ค้าของไทย ให้เชื่อมั่นว่าเมื่อสถานการณ์น้ำลดว่าภาคการส่งออกของไทยจะสามารถผลิตและส่งสินค้าได้ตรงเวลา เพราะไม่เช่นนั้นลูกค้าอาจจะหนีไปสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่แข่งได้

ทั้งนี้ภาคการผลิตที่มีความเสี่ยงถูกกระทบ คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเลคทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานในการผลิตจำนวนมาก ที่จะสามารถย้ายฐานการผลิตออกจาประเทศได้ง่าย ซึ่งขณะนี้ได้รับทราบมีโรงงานผลิตเลนส์แว่นตา ที่อาจย้ายฐานการผลิตออกจากไทย และหากภาคการผลิตเหล่านี้ลดน้อยลง ก็จะกระทบถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิต ที่ต้องผลิตสินค้าเพื่อป้อนโรงงานขนาดใหญ่ไปด้วย ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์เชื่อว่าจะยังคงฐานผลิตไว้อยู่ เพราะประเทศยังมีความพร้อมและปัจจัยสนับสนุนอยู่หลายด้าน

ภาคการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างหนักขณะนี้ โดยจะกระทบต่อการส่งออกไตรมาส 4 ของปีนี้ ต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกปีหน้า เนื่องจากโรงงานผลิตสินค้าที่ถูกน้ำท่วมยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูกำลังการผลิต และจะฟื้นตัวสามารถกลับมาผลิตสินค้าและส่งออกได้เต็มที่ตั้งแต่ไตรมาสสองปีหน้าเป็นต้นไป จึงเชื่อว่าปีหน้าการการส่งออกจะขยายตัวน้อยกว่าปีนี้ โดยปี 2555 น่าจะเติบโตที่ 10% ขณะที่ปีนี้จะขยายได้ 15% แม้ช่วงไตรมาสสี่ปีนี้จะเสียหายไปมาก แต่ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมายังมีอัตราขยายตัวค่อนข้างดี

แนวทางที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการ ประกอบด้วย  เร่งฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมให้ฟื้นตัวกลับมาผลิตสินค้าได้โดยเร็ว ต่อมาคือต้องการให้ภาครัฐให้ความสำคัญต่อการเยียวยาธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นการเร่งด่วน เพราะธุรกิจเอสเอ็มอีมีสัดส่วนมากถึง 90% ของปริมาณธุรกิจทั้งประเทศ และมีความจำเป็นต้องการเงินทุนเพื่อนำไปฟื้นฟูกิจการอยู่มาก จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งจัดหาเงินทุน รวมถึงผ่อนปรนหลักเกณฑ์การขอสินเชื่อเพื่อให้เจ้าของธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างประเทศ ว่าประเทศไทยจะไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นอีกในปีหน้า พร้อมทั้งแนวทางการป้องกันอย่างชัดเจน

สำหรับการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 จ.ระยองวันที่ 9-11 ธ.ค.นี้ จะมุ่งเน้นการรวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน โดยเป็นการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับหัวข้อการสัมมนาจะมี 3 เรื่อง ได้แก่ ต่อต้านคอร์รัปชั่นสร้างสรรค์ประเทศไทย ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจหลังวิกฤตน้ำท่วม และการลดความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ รวมพลังขับเคลื่อนประเทศไทนอย่างยั่งยืน และนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ปาฐกถาเรื่อง รวมพลังก้าวผ่านวิกฤตอุทกภัย สร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย