posttoday

ซูบารุปรับนโยบายรุกตลาด

10 สิงหาคม 2554

มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ปรับนโยบายรุกตลาด รถประกอบและรถนำเข้า วาดเป้ายอดขาย 2,500 คันในปี 2556

มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ปรับนโยบายรุกตลาด รถประกอบและรถนำเข้า วาดเป้ายอดขาย 2,500 คันในปี 2556

นายอภิชัย ธรรมศิรารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ (ประเทศไทย) และ นายเกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจงกรุ๊ป และกลุ่มบริษัท มอเตอร์ อิมเมจ กล่าวว่า นับจากนี้เป็นต้นไปบริษัทได้ปรับนโยบายในการรุกทำตลาดรถยนต์ซูบารุ ในประเทศไทย ผ่านการนำเข้ารถประกอบจากประเทศมาเลเซียมาจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะเริ่มในเดือน ต.ค. 2555 และตั้งเป้าที่จะจำหน่ายรถยนต์ประกอบในประเทศและนำเข้ารวมกัน 2,500 คันในปี 2556

ทั้งนี้ ยอดขายดังกล่าวถือเป็นการเติบโตที่กระโดด จากปีนี้ที่มียอดขายจำหน่ายรถ 150 คัน ครึ่งปีแรกจำหน่ายได้แล้ว 80 คัน คาดว่าที่เหลืออีก 70 คัน จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ส่วนในปีหน้าภายหลังจากมีรถนำเข้ามาจำหน่ายแล้วคาดว่าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 800 – 1,000 คัน

สำหรับการนำเข้ารถประกอบจากประเทศมาเลเซียเข้ามาจำหน่าย เนื่องจากไม่เสียภาษีนำเข้า ทั้งได้สามารถลดทุนในการสร้างโรงงานประกอบกรถยนต์ใหม่ เพราะประเทศมาเลเซีย บริษัทมีโรงงานประกอบรถยนต์อยู่แล้ว และลงทุนด้านอุปกรณ์ เครื่องจักรเล็กน้อยก็สามารถประกอบรถยนต์รุ่น เอ็กซ์วี อิมเพรสซ่า ด้วยกำลังการผลิต 5,000 คันต่อปี

ส่วนแผนการตลาดด้านอื่นๆ บริษัทจะลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายโชว์รูมรถซูบารุ ในประเทศไทยให้ได้ 26 สาขาภายในปี 2558 แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 10 สาขา ต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ 16 สาขา จากปัจจุบันมี  4 สาขา และในปีหน้าจะเพิ่มให้ได้ 15 สาขา โดยบริษัทลงทุนเอง 4 สาขาด้วบงบ เริ่มต้น 10 ล้านบาทต่อสาขา

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนด้านบริการหลังการขายต่างๆ เช่น ศูนย์สต็อกอะไหล่รถยนต์ ศูนย์ซ่อมบำรุง ศูนย์บริการหลังการขายด้านต่างๆ เป็นต้น รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านการทำตลาดผ่านสื่อ และการจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ

นายเกลน กล่าวต่อว่า ฐานการประกอบรถยนต์รุ่น เอ็กซ์วี อิมเพรสซ่า ในประเทศมาเลเซีย มีกำลังการผลิต 5,000 คัน เพื่อทำตลาดในประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ในอัตราส่วนที่เท่าๆ กัน คือ 1,700 คัน แต่ประเทศไทยเป็นประเทศที่อัตราการใช้รถยนต์มาก และเป็นตลาดที่มีศายภาพที่สุดจึงนำเข้ามาขาย 2,000 คัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวจะได้รับจากกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย คือ นักธุรกิจ  เป็นอย่างดีและมียอดขายตามเป้า เนื่องจากสามารถทำราคาให้แข่งขันได้เมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นเดียวกันกับแบรนด์คู่แข่งที่มาจากญี่ปุ่น เหมือนกัน