จับทิศ ทองขาลง!

โดย...นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. บริเวณ 1,357 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หลังจากนั้นจะเห็นได้ว่าราคาเผชิญแรงเทขายเข้ามาอย่างต่อเนื่องกลับหลุดต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์อีกครั้ง และในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ทำระดับต่ำสุดใหม่อีกครั้งในรอบกว่า 4 สัปดาห์ บริเวณ 1,267 ดอลลาร์ หรือลดลงมาแล้วเกือบ 100 ดอลลาร์ หรือเกือบ 7%

ตลาดกลับมาให้ความสนใจกับโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือน ธ.ค.นี้ ที่ตลาดมีมุมมองมากขึ้นถึง 84% จากแถวระดับ 74% ในสัปดาห์ก่อนหน้า ประกอบกับแผนปฏิรูปภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ดูจะเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ท่ามกลางประเด็นความตึงเครียดในเกาหลีเหนือที่บรรเทาลงไป ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐก็ดูเหมือนจะสะท้อนความแข็งแกร่งมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อย่างดีต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอาจจะได้รับผลกระทบบางส่วนจากพายุเฮอริเคนที่พัดเข้าสู่ประเทศเมื่อเดือน ก.ย.

ขณะที่การร่วงลงของราคาทองคำดูเหมือนจะได้รับแรงกดดันจากทิศทางการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นด้วยเช่นกัน อันจะเห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ยังคงปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทางด้านดัชนีดอลลาร์ก็มีการปรับแข็งค่าขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ระดับ 93.92 จุด จากที่ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 93.02 จุด นอกจากนี้ ทองคำยังถูกกดดันจากการเทขายของกองทุนเอสพีดีอาร์ ที่ในช่วงเริ่มเดือน ต.ค.นี้ เพียงสัปดาห์เดียวก็ขายออก 13.59 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 851.06 ตัน

ราคาทองคำปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 4 สัปดาห์ที่ระดับ 1,267 ดอลลาร์โดยประมาณ อันจะเห็นได้จากราคาทองคำปรับหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันลงมาจากระดับ 1,290 ดอลลาร์ จึงทำให้ภาพรวมของราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ขณะที่สัปดาห์หน้าทองคำน่าจะมีแนวรับที่ระดับ 1,250 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,280 ดอลลาร์

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน ณ ขณะนี้ ย้ำเน้นการปิดสถานะ Long และเปิดสถานะ Short เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น เพื่อเก็งกำไรตามทิศทางแนวโน้มขาลง และมีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องได้ในช่วงปลายปี จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

การใช้เครื่องมือ

บริษัท MTS Gold Futures นำเสนอเครื่องมือช่วยวิเคราะห์และตัดสินใจที่เรียกว่า MTS MT4 ที่จะเป็นกราฟทางด้านเทคนิคที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้ตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นักลงทุนสามารถทำการซื้อหรือขายก่อนที่ราคาจะไปสู่ทิศทางนั้นๆ จึงทำให้ท่านลดปัญหาขาดทุนจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Auto Trade หรือ Robot จะเป็นระบบที่เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และยินดีที่จะทำการซื้อและขายได้อย่างอัตโนมัติ โดยสภาพการลงทุนก็จะเป็นการใช้ทฤษฎีที่นำมาทำการซื้อหรือขายตามกลยุทธ์ที่ท่านเลือก ทำให้ท่านสะดวกในการลงทุนทองคำมากขึ้น

อย่างไรก็ดี บริษัท MTS Gold Futures เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) พร้อมให้บริการซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Gold Futures, SET50 หรือแม้แต่สินค้าใหม่อย่าง “Gold-D” ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ที่มีสภาพคล่องสูง และเคลื่อนไหวตามทิศทางทองคำตลาดโลก จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรได้ง่ายขึ้น และหมดกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าเงินบาท รวมทั้งเรามีเครื่องมือการซื้อขายที่ทันสมัยอย่าง MTS MT4 ซึ่งสามารถส่งคำสั่งผ่านตลาด TFEX ได้แล้ววันนี้สนใจติดต่อเปิดบัญชีได้ที่ MTS Call Center : 02-770-7777