posttoday

เบี้ยทรัพย์สินแข่งดุ

16 มีนาคม 2560

ประกันภัยทรัพย์สินไทยแข่งเดือด รีอินชัวเรอส์หน้าใหม่จาก จีน เกาหลี อินเดีย ทุ่มราคาต่ำชิงลูกค้า

ประกันภัยทรัพย์สินไทยแข่งเดือด รีอินชัวเรอส์หน้าใหม่จาก จีน เกาหลี อินเดีย ทุ่มราคาต่ำชิงลูกค้า

นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (ไทยรี) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการประกันภัยทรัพย์สินยังอยู่ในวงจรการแข่งขันที่สูง ทำให้ราคาเบี้ยยังคงลด ซึ่งเป็นโอกาสของลูกค้าที่จ่ายเบี้ยในอัตราต่ำ เพราะกำลังความสามารถ และเงินทุนของบริษัทประกันภัยต่อ หรือรีอินชัวเรอส์ ในตลาดโลกมีสูงมาก จากการที่โลกไม่มีมหันตภัยใหญ่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ในตลาดประกันภัย ต่อเอเชีย มีบริษัทรับประกันภัยต่อขนาดใหญ่ติดอันดับโลกเกิดขึ้น เช่น ประเทศจีน จะมีบริษัท ไชน่า รี ประเทศอินเดีย มีบริษัท จีไอซี ประเทศเกาหลี มีบริษัท โคเรียน รี มีเงินทุนมหาศาล ได้เข้ามาแข่งขันรับประกันภัยต่อในตลาดประเทศ ไทย โดยเฉพาะการรับประกันภัยทรัพย์สิน โดยทำได้ง่ายเพราะลูกค้าเป็นรายใหญ่ทำให้ผู้เล่นเพิ่มสูงขึ้น

"บริษัทรับประกันภัยต่อจะไม่เข้ามาเล่นตลาดรายย่อย เพราะจำนวน ผู้เกี่ยวข้องเยอะ และต้องใช้ข้อมูล ที่ละเอียด เราซึ่งทำตลาดในไทยมานานจะมีข้อมูลดี จึงได้ลดการทำประกันภัยทรัพย์สินลงตั้งแต่หลังน้ำท่วมใหญ่ และรับประกันภัยต่อในส่วนของลูกค้ารายย่อย ตอนนี้สัดส่วนประกันภัยทรัพย์สินของบริษัทมีไม่ถึง 10% จากเดิมมีสูงถึง 60%" นายโอฬาร กล่าว

ด้าน นายณัฐวุฒิ งานภิญโญ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ฟอลคอนประกันภัย กล่าวว่า ตลาดประกันภัยทรัพย์สินลูกค้าองค์กร หรือลูกค้ารายใหญ่ มีการแข่งขันลดราคาเบี้ยรุนแรงต่อเนื่องถึงปีนี้ ทำให้รายได้จากธุรกิจนี้ไม่เพิ่มสูงขึ้นมากนัก แม้ว่าลูกค้าเก่ายังคงทำประกันภัยต่อเนื่องและมีลูกค้าใหม่เข้ามา

สำหรับปีนี้บริษัทจะหันไปทำตลาดประกันภัยทรัพย์สินในส่วนของการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ที่ราคาเบี้ยยังดีอยู่ปรับลดลงไม่ถึง 10% โดยบริษัทมีข้อได้เปรียบที่มีบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัทแม่ทำธุรกิจรับประกันภัยต่อและเป็นที่น่าเชื่อถือในระดับโลก

แหล่งข่าวจากบริษัทนายหน้าประกันภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเบี้ยประกันภัยทรัพย์สินในส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าอยู่ประมาณ 0.04-0.05% จากเดิม 0.09-0.1%

ทั้งนี้ ในปี 2559 เบี้ยประกันภัยทรัพย์สินทั้งระบบมีจำนวน 2.38 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับ ปี 2558 ที่มีเบี้ยรับรวม 2.57 หมื่นล้านบาท