posttoday

ห่วงเศรษฐกิจโลกแผ่ว กดตลาดหุ้นทั่วโลก

13 ตุลาคม 2557

โดย...พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, CFP, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน)

โดย...พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, CFP, ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต จำกัด (มหาชน)

สัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นและน้ำมัน จากนั้นไหลย้อนกลับเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เช่น พันธบัตร เงินดอลลาร์สหรัฐ  ช่วงสั้น ดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวนตามตลาดหุ้นโลก

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัวพุ่งขึ้น หลังมีรายงานบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซาในยูโรโซน ขณะที่ IMF  ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 57 เหลือ 3.3% และปี 58 เหลือ 3.8% ซึ่งลดลง 0.1% และ 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค. ตามลำดับ

ด้านเยอรมนีและฝรั่งเศสที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ในยูโรโซน ต่างรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ หลังได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซีย อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ในยูเครน ขณะที่การค้าขายกับจีนถูกกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ยังชะลอตัว

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนส.ค. หด 4.0% จากเดือนก.ค. นับเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 5 ปี ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสไม่ขยายตัวในเดือนส.ค.

นักลงทุนวิตกมากขึ้นเมื่อประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อปกป้องเศรษฐกิจยูโรโซนให้รอดพ้นจากภาวะเงินฝืด หลังจากอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนร่วงลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. ต่ำสุดในรอบ 5 ปี และห่างไกลจากเป้าหมาย 2%

การส่งสัญญาณพร้อมที่จะใช้มาตรการแทรกแซงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจยูโรโซนกำลังย่ำแย่อย่างหนัก

ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" แต่ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของฝรั่งเศสเอาไว้ที่ระดับ AA การปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือครั้งล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นมุมมองของ S&P ที่ว่า เป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และสถานะการคลังของฝรั่งเศสมีแนวโน้มถดถอยลงไปจนถึงต้นปีหน้า

ศุกร์ที่ผ่านมา น้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 85.82 ดอลาร์/บาร์เรล ลดลง 5.34 ดอลลาร์ จากเมื่อสิ้นไตรมาส 3 และร่วงเกือบ 20 ดอลลาร์ จากสิ้นไตรมาส 2 ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างรวดเร็วถ่วงหุ้นน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันที่เสี่ยงขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน

ด้านรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. เผย เฟด กังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ อาจกระทบต่อการส่งออก และเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

เฟดยังชี้ด้วยว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดอีก 2-3 ปี พร้อมระบุว่า สัญญาณชี้นำล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง

รายงานดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำติดดินต่อไปอีกนาน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะดัชนีแนสแดกที่ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากบริษัทไมโครชิพ เทคโนโลยีได้ออกรายงานเตือนว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้เข้าสู่ภาวะปรับฐานแล้ว และจะเข้าสู่ภาวะ "ปรับฐานลง" เป็นวงกว้างในระยะเวลาอันใกล้นี้

ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ปรับลง 3.1% ดัชนีแนสแดกดิ่ง 4.5% และดัชนีดาวโจนส์ร่วง 2.7%

ความผันผวนในตลาดหุ้นโลกฉุดดัชนีหุ้นไทยร่วงตาม แต่ตีตื้นขึ้นมาเหลือลบเพียง 1.1% เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งที่ช่วงต้นสัปดาห์มีความกังวลต่อผลกระทบจากการแก้ประมวลกม.แพ่งและพาณิชย์ ประเด็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งจะทำให้กระบวนการปล่อยสินเชื่อยากขึ้น เพิ่มต้นทุนและความเสี่ยงต่อสถาบันการเงิน

ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อ LTF, RMF ก่อนสิ้นปี และทริกเกอร์ฟันด์กองใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว รวมถึงมุมมองเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3.6 แสนล้านบาท หรือ 3% ของ GDP

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยยากจะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงภายนอก ตลาดยังอยู่ในช่วงแกว่งหาฐานราคาใหม่ แนวรับอยู่ที่ 1540, 1520 และ 1490 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1560-1565 จุด

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ