posttoday

ธกส.ลุยแบงก์ชุมชน3พันแห่ง

17 ธันวาคม 2560

บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวลุยยกระดับสถาบันการเงินชุมชนเป็นแขนขารับเงินฝากและปล่อยกู้ ตั้งเป้าทำได้ 3,000 แห่ง ภายในปี 2563

บอร์ด ธ.ก.ส.ไฟเขียวลุยยกระดับสถาบันการเงินชุมชนเป็นแขนขารับเงินฝากและปล่อยกู้ ตั้งเป้าทำได้ 3,000 แห่ง ภายในปี 2563

รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการที่มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน เห็นชอบเรื่องการขับเคลื่อนงานเครือข่ายทางการเงิน ธ.ก.ส. ปีบัญชี 2560 โดยกำหนดแผนพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.) และสถาบันการเงินชุมชน (สถช.) เป็นเครือข่ายทางการเงินของ ธ.ก.ส. เป้าหมายจำนวน 900 แห่ง ในระยะแรกซึ่งให้ทำกิจกรรมด้านสนับสนุนความรู้และการตลาด และขยายผลครอบคลุมกิจกรรมด้านธุรกรรมการเงิน และด้านอำนวยสินเชื่อ ในปี 2561 เป็นต้นไป ทั้งนี้ภายในปี 2563 ตั้งเป้าหมายเครือข่ายทางการเงิน ธ.ก.ส. จำนวน 3,000 แห่ง

สำหรับการขับเคลื่อนงานด้านเครือข่ายทางการเงินของ ธ.ก.ส. ได้กำหนดนิยามเครือข่ายทางการเงินของ ธ.ก.ส. หมายถึง บุคคลธรรมดา นิติบุคคล และกลุ่มบุคคลที่จดทะเบียน ที่ ธ.ก.ส.แต่งตั้งขึ้นให้เป็นเครือข่ายทางการเงินของธนาคาร เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนการดำเนินงานและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า โดยได้แบ่งประเภทของเครือข่ายเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านธุรกรรมการเงิน ด้านการอำนวยสินเชื่อ ด้านสนับสนุนความรู้และการตลาด และด้านอื่นๆ

ขณะที่หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเครือข่ายของ ธ.ก.ส. ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อลูกค้า การเปิดเผยข้อมูล การคุ้มครองผู้บริโภคในเรื่องอื่นๆ รวมทั้งสามารถเพิกถอนการอนุญาตเครือข่าย กรณีเครือข่ายไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่กำหนด

ก่อนหน้านี้ รมว.คลัง กล่าวว่ากระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายผลักดันพระราชบัญญัติสถาบันการเงินชุมชน พ.ศ. … เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจยกระดับสถาบันการเงินชุมชนเป็นองค์กรการเงินระดับชุมชน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ตามความเห็นของเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อให้มีความเหมาะสมกับบริบทขององค์กรการเงินระดับชุมชน

ทั้งนี้ เป้าหมายของร่าง พ.ร.บ.นี้ คือต้องการให้แบงก์รัฐอย่างธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. พยายามสร้างสถาบันการเงินชุมชน เพื่อให้รองรับการทำงานให้คนในท้องถิ่นเข้าถึงบริการเงินฝากและสินเชื่อมากขึ้น โดยสถาบันการเงินชุมชนต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย เพื่อขอจดทะเบียนเป็นองค์กรการเงินชุมชนภายใต้ร่าง พ.ร.บ.นี้ได้โดยสมัครใจ