posttoday

คลังรุกตั้งแท่นทำงบสมดุล คาดอีก5-10ปีได้เห็นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว

23 พฤศจิกายน 2560

คลังลุยทำงบประมาณสมดุล หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว ดันเอกชนเป็นตัวหลักขับเคลื่อนแทนรัฐ

คลังลุยทำงบประมาณสมดุล หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว ดันเอกชนเป็นตัวหลักขับเคลื่อนแทนรัฐ

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากนี้คลังจะเร่งดำเนินการใน 2 เรื่องหลักที่สำคัญ คือ เรื่องการส่งสัญญาณทำงบประมาณเข้าสู่สมดุลในระยะปานกลางและระยะยาวหรือระยะ 5-10 ปี ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้ตลาดได้รับรู้ว่า เมื่อเอกชนสามารถกลับมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ภาครัฐก็ควรกลับมาสนับสนุนเศรษฐกิจอยู่ข้างหลังอีก ซึ่งการทำงบประมาณสมดุลต้องดูทั้งเรื่องการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและการจัดเก็บรายได้ควบคู่กัน

นอกจากนี้ คลังยังต้องดำเนินการในเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียน 11.4 ล้านคน ให้พ้นจากความยากจนให้มากที่สุด ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้คลังเร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยระยะที่ 2 ซึ่งคลังจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงสถาบันการเงินของรัฐเพื่อสรุปแนวทางมาตรการ การช่วยเหลือฝึกอาชีพ การหาตำแหน่งงาน การเพิ่มรายได้ ให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นจากความยากจน

ทั้งนี้ หลังจากหารือดังกล่าวใน วันที่ 23 พ.ย.นี้ คลังจะรายงานผลให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง พิจารณาแนวทางและกลับมาปรับปรุงให้แนวทางมาตรการเกิดความสมบูรณ์เกิดการปฏิบัติจริงและเกิดผลตามที่ตั้งเป้าไว้ โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน สิ้นปีนี้ และเริ่มโครงการในปีหน้าโดยมีเป้าดำเนินการให้เสร็จภายใน 6 เดือน

"เมื่อเศรษฐกิจของไทยในภาพรวมดีขึ้นแล้ว คลังก็ต้องเร่งแก้ปัญหา รากเหง้าของเศรษฐกิจ ในเชิงโครงสร้างทั้งการแก้ปัญหาความยากจน และการ ทำงบสมดุลในระยะปานกลาง 5-10 ปี ไม่สามารถทำได้ภายใน 1-2 ปี แต่ต้องส่งสัญญาณว่าคลังตั้งใจทำงบสมดุล เพราะไม่สามารถปล่อยให้ขาดดุลงบประมาณได้ตลอดไป" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า คลังยืนยันมาตลอดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้น เห็นได้จากการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2560 ในไตรมาส 1,2 และ 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด โดยเฉพาะไตรมาส 3 ขยายตัวได้ถึง 4.3% ซึ่งถือว่าสูงมาก เนื่องจากนโยบายมาตรการประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ผล การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มขยายตัวได้ดีขึ้น ขณะที่การลงทุนของภาครัฐก็มีการดำเนินการเต็มที่ รวมถึงการ ส่งออกก็ขยายตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

นายเอกราช เขื่อนขันธ์สถิต ผู้อำนวยการส่วนจัดการเงินกู้รัฐบาล สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า คลังมีแผนกู้เงินจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) จำนวน 333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มูลค่าโครงการ 8.5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะพิจารณาในรายละเอียดได้เสร็จและเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในปี 2561