posttoday

ธปท.เตือนแนวโน้มเงินบาทยังผันผวน

11 กรกฎาคม 2560

ธปท.เตือนค่าเงินบาทปีนี้ยังมีแนวโน้มผันผวน ยันบาทแข็งกระทบส่งออกน้อย แนะใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสขยายธุรกิจ

ธปท.เตือนค่าเงินบาทปีนี้ยังมีแนวโน้มผันผวน ยันบาทแข็งกระทบส่งออกน้อย แนะใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสขยายธุรกิจ

น.ส.วชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา "เงินบาทแข็งค่า.ธุรกิจจะต้านทานได้แค่ไหน"ทีธนาคารเพือการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเอ็กซิมแบงก์) ว่า ค่าเงินบาทในช่วงปี 58-60 เคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 32-33 บาท มา 36 บาท และปัจจุบันที่ 34 บาท ซึ่งเคลื่อนไหวตามปัจจัยหลายอย่าง อาทิ 1) นโยบายทางเศรษฐกิจสหรัฐ ที่เปลี่ยนแปลงตามนโยบายของนายโดนัล ทรัมป์ การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) าตเมืองในต่างประเทศ เช่น แบร็กซิต ยุโรป นโยบายจีน ทำมห้ค่าเงินบาทผันผวน

" ที่ผ่านมาค่าเงินบาทอาจแข็งค่าขึ้นบ้าง จากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศดุลยัญชีเดินสะพัดสูงถึง 11%  ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐหิจ (จีดีพี) มีส่วนให้ค่าบาทแข็งค่า แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการส่งออกมากนัก เพราะกำลังซื้อของเศรษฐกิจคู่ค้ามีผลต่อมูลค่าส่งออกมากกว่า โดยแนวโน้มเงินบาทปีนี้ยังผันผวน ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันแข็งค่า 5% ยังเคลื่อนไหสสอดคล้องกับประเทศอื่นในภูมิภาค" น.ส.วชิรากล่าว

ด้าน นายศรพล ตุลยะเาถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศษรฐกิจมหาภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ค่าเงินบาทอาจดูแข็งค่าจริง แต่ถ้าเทียบกับอดีตปี 2552 ถึงปีนี้ค่าเงินที่บอกว่าแข็งในปัจจุบันยังแข็งไม่เท่าในอดีตที่เคยแข็งไปที่ 28 66 บาท/ ดอลลาร์ และเมื่อเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเรากับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง (NEER) เงินบาทเราก็แข็งค่าขึ้นตลอดประมาณ 10% แต่างออกยังเติบโตได้ ส่วนหนึ่งเพราะผู้ส่งออกมีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้นและกำลังซื้อในต่างประเทศดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

"ในสถานการณ์ที่ค่าเงินแข็งค่า เราควรใช้ให้เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปในประเทศเพื่อนย้านมนช่วงที่เศรษฐกิจโลกทีโอกาสเติบโตดี เพื่อได้สิทธิพิเศษมทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ก็ได้" นายศรพลกล่าว