ปล่อยกู้รถไฟฟ้าบีทีเอสแสนล้านบาท

แบงก์กรุงเทพจับมือ ไทยพาณิชย์ จัดเงินกู้ให้บีทีเอส 1 แสนล้านบาท สร้างรถไฟฟ้าสายชมพู-เหลือง

นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้นำจัดหาเงินกู้สนับสนุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสาย สีเหลือง โดยร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ สนับสนุนทางการเงินมูลค่า 1 แสนล้านบาท ให้กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ดำเนินโครงการดังกล่าว โดยรูปแบบสินเชื่อ จะเป็นสินเชื่อระยะสั้น (บริดจ์โลน) 3 ปี จากนั้นสินเชื่อ

ดังกล่าวจะแปลงสภาพเป็นสินเชื่อระยะยาว (เทอมโลน) ในรูปการปล่อยกู้ร่วม (ซินดิเคตโลน) ต่อไป โดยขณะนี้มีธนาคารหลายแห่งสนใจเข้าร่วมสนับสนุน สำหรับธนาคารกรุงเทพจะเริ่มทยอยบันทึก สินเชื่อดังกล่าวในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ภาพรวมสินเชื่อขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 4-5% ในปีนี้

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า วันนี้กลุ่มบีเอสอาร์ ได้ร่วมลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง กับการรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 2 บริษัท คือ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล เพื่อ ดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล ดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

ทั้งนี้ ตามสัญญาร่วมลงทุนใน รูปแบบพีพีพี เน็ต คอสต์ (PPP Net Cost) บริษัทร่วมทุนจะได้รับสิทธิในการบริหารจัดการเดินรถ จัดเก็บรายได้ ค่าโดยสารและค่าที่จอดรถ รวมถึง รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ด้วย โดยบริษัทร่วมทุนทั้งสองบริษัทจะมอบหมายให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นผู้เดินรถและซ่อมบำรุง และว่าจ้างบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น ก่อสร้างงานโยธา และว่าจ้าง บริษัท บอมบาดิเอร์ ผลิตและติดตั้งระบบและขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรล

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรวม 30 สถานี กรอบวงเงินลงทุน 46,643 ล้านบาท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง มีระยะทาง ประมาณ 30.4 กิโลเมตร มีสถานีรวม 23 สถานี กรอบวงเงินลงทุน 45,797 ล้านบาท ทั้งสองโครงการเป็นระบบรถไฟฟ้า รางเดี่ยวแบบคร่อมราง (Straddle Monorail) ทั้งนี้ คาดว่าทั้งสองโครงการจะสามารถเปิดให้บริการได้ ในปี 2563.