posttoday

ออมสิน-ธอส.หั่นดอกเบี้ย

20 พฤษภาคม 2560

ถึงคิวแบงก์รัฐ ธนาคารออมสิน-ธอส. ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลูกค้ารายย่อยและรายกลาง

ถึงคิวแบงก์รัฐ ธนาคารออมสิน-ธอส. ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ช่วยลูกค้ารายย่อยและรายกลาง

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือเอ็มอาร์อาร์ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี หรือเอ็มโออาร์ จาก 7.125% และ 7.10% ลงเหลือ 7.00% เท่ากัน เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และช่วยลดภาระให้แก่ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อบุคคลของธนาคารมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.นี้ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้มีการปรับลดดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี 2560 ส่งผลให้ดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์อยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์

นอกจากนี้ ธนาคารมีโครงการลดดอกเบี้ยให้ประชาชนรายย่อย สำหรับลูกค้าธนาคารที่ประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ความสามารถในการหารายได้ลดลง โดยจะช่วยเหลือลูกค้า สินเชื่อที่มีวงเงินกู้รวมรายละไม่เกิน 3 แสนบาท ที่เป็นลูกค้าที่ผ่อนชำระเงินกู้รายเดือนมีประวัติชำระหนี้ดี ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยให้ 30% ของดอกเบี้ยที่ชำระมา เช่น เสียดอกเบี้ยอยู่ในอัตรา 7.0% จะได้คืน 2.1% มากกว่าที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในครั้งนี้มาก โดยจะทำ การโอนเงินคืนเข้าบัญชีลูกค้าในช่วงเดือน ธ.ค. 2560-ม.ค. 2561 คาดว่าจะมีลูกค้าที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าโครงการนี้ได้ประมาณ 9.5 แสนราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง ก่อนจะดำเนินการต่อไป

ด้าน นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (เอ็มแอลอาร์) ลง 0.15% จากเดิม 6.40% เหลือ 6.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (เอ็มโออาร์) ลดลง 0.25% จากเดิม 7.25% เหลือ 7.00% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2560

อย่างไรก็ตาม ธอส.ได้คงอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป (เอ็มอาร์อาร์) ไว้ที่ 6.75% เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ของธนาคารต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน รวมทั้ง ธอส.อยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำโครงการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษแก่ผู้เข้าร่วมโครงการกรอกแบบสำรวจแอพพลิเคชั่นคนไทยมีบ้าน Home for All เพื่อให้เกิดเม็ดเงินกระจายสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง โดยจะประกาศรายละเอียดในเร็วๆ นี้