ญี่ปุ่นคงอันดับเรตติ้งไทยA+

เจซีอาร์จากญี่ปุ่น คงเรตติ้งประเทศไทย A+ ด้านดับเบิ้ลยูทีโอคาดการค้าโลกขยายตัวสูงขึ้นเป็น 3.6%

นายธีรัชย์ อัตนวานิช ที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เจแปน เรตติ้ง เอเยนซี หรือเจซีอาร์ ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของไทยที่ระดับ A- สกุลเงินบาทที่ระดับ A และคงเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไว้ที่ระดับ A+ โดยมีมุมมองความน่าเชื่อถือที่มีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ เจซีอาร์คาดว่าการเดินหน้าปฏิรูปเชิงโครงสร้างของรัฐบาล และการส่งออกที่จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่ประชากรในวัยทำงานที่ลดลง และค่าจ้างแรงงานที่จะสูงขึ้นอาจกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต ดังนั้นนโยบายรัฐบาลซึ่งรวมถึงมาตรการปฏิรูปเพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

เจซีอาร์ รายงานด้วยว่า สถานะทางการคลังของไทยเข้มแข็ง เนื่องจากรัฐบาลดำเนินงานภายใต้กรอบวินัยทางการคลังที่กำหนดไว้ในกฎหมายอย่างเข้มงวด แม้จะมีงบรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 2560 และทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น แต่ก็เพื่อใช้ลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ เจซีอาร์รายงานเพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งในประเทศไทยจะจัดขึ้นภายหลังจากการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งแล้วเสร็จ โดยเจซีอาร์จะติดตามความคืบหน้าในกระบวนการเลือกตั้ง และความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศของรัฐบาลต่อไป

ด้าน นายโรแบร์โต อาเซเวโด ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) แถลงว่า การค้าโลกในปีนี้จะขยายตัวดีขึ้นเป็น 2.4% และปรับเพิ่มกรอบการเติบโตจาก 1.8-3.1% เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เป็น 1.8-3.6% แต่หากเผชิญปัญหาความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ตึงเครียดขึ้น ก็อาจฉุดการเติบโตลงมาอีก ขณะที่ปี 2559 การค้าโลกขยายตัวเพียง 1.3% เท่านั้น ต่ำกว่าคาดการณ์ 1.7%

สำหรับความกังวลเรื่องการปกป้องทางการค้าของสหรัฐนั้น นายอาเซเวโด กล่าวว่า ยังต้องรอดูโฉมทีมผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ชุดใหม่ก่อน จึงจะเห็นรายละเอียดและเริ่มพูดคุยกันเพื่อประเมินความชัดเจนได้