posttoday

RSปลอดภัยที่สุด

31 ธันวาคม 2556

โดย...บล.เคเคเทรด

โดย...บล.เคเคเทรด

การแข่งขันราคาประมูลทีวีดิจิตอลสูงกว่าคาดเกือบเท่าตัว และผู้ชนะส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นรายเดิมและเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงยังคงมุมมองเดิม รายได้ในปีแรกจะเพิ่มขึ้นไม่ทันกับต้นทุน

การลงทุนในปีแรกของผู้ชนะการประมูลทุกรายจะยังไม่มีกำไร คาดว่าจะเริ่มมีกำไรประมาณปีที่ 3 เนื่องจากความสามารถในการเข้าถึงครัวเรือนยังต่ำเมื่อเทียบกับการออกอากาศในระบบอะนาล็อกเดิม และต้องใช้เวลาในการสร้างฐานผู้ชม สร้างความเชื่อมั่นกับเอเยนซี่โฆษณา ขณะที่ราคาประมูลช่อง HD และ SD ที่สูงกว่าที่คาดราว 1,000 ล้านบาท หากประเมินเป็นค่าตัดจำหน่ายรายปีตามอายุใบอนุญาต 15 ปี จะถือว่าเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากที่คาดไม่มากเพียง 70 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น ไม่ถือว่าเป็นภาระกับผู้ชนะการประมูลมากในกรณีที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการทีวีดิจิตอลมีโอกาสทำกำไรสูงถึงหลักพันล้านบาทต่อปี เทียบจากผู้ประกอบการรายเดิมอย่างบริษัท บีอีซีเวิลด์ (BEC) และบริษัท อสมท (MCOT)

RS เป็นหุ้นเด่น...ปลอดภัยจากผลกระทบมากที่สุด

สรุปการประมูลทีวีดิจิตอล ระบบ HD และ SD บริษัทที่ชนะการประมูล จะมีต้นทุนคงที่เพิ่มขึ้นจากค่าตัดจำหน่ายเงินประมูลตั้งแต่ 147-387 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าโครงข่าย ค่า Up-link ขึ้นดาวเทียม และต้นทุนหลักจากค่าผลิตรายการ 300-400 ล้านบาทต่อปี

มองว่า BEC ซึ่งมีฐานกำไรเดิมสูงปีละกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท และบริษัทอาร์เอส (RS) ที่คาดว่าจะมีกำไรจากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกเข้ามาชดเชยราว 100 ล้านบาท จะได้รับผลกระทบจากการลงทุนทีวีดิจิตอลในปีแรกน้อยที่สุด

สำหรับหุ้นในกลุ่มสื่อที่ชนะการประมูล ยังคงเลือก RS เป็นหุ้นเด่นจากที่มีตัวช่วยชดเชยต้นทุนจากบอลโลกและมีความได้เปรียบในการนำช่องรายการทีวีดาวเทียมเดิม (ช่อง 8) ที่ได้รับความนิยมสูงมาออกอากาศในระบบทีวีดิจิตอลได้ทันที แนะนำ “ซื้อ” ประเมินมูลค่าเหมาะสม 10.40 บาท