posttoday

ภูมิทัศน์แวดล้อม...ภายใต้คำพยากรณ์นางสงกรานต์ปี 2564

12 เมษายน 2564

คอลัมน์ เศรษฐกิจรอบทิศ

ต้อนรับวันปีใหม่ไทยที่เรียกว่า “วันสงกรานต์” ท่ามกลางยกระดับคุมโควิด-19 เนื่องจากมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงต้นเดือนเมษายนบางวันพุ่งเกือบสองร้อยราย มีการปรับมาตรการควบคุมพื้นที่หลายจังหวัดรวมทั้งกทม.และปริมณฑลกลายเป็นโซนสีแดง ประกาศงดกิจกรรมรวมกลุ่มห้ามสาดน้ำทำได้เพียงแค่รดหรือพรมพอเป็นพิธีโดยเฉพาะงดปะแป้งมีโทษผิดตามกฎหมายซึ่งข้อเท็จจริงคนไทยชอบสนุกจะร่วมมือควบคุมกันได้เพียงใด กลุ่มแพทย์ออกมาเตือนสงกรานต์ภายใต้โควิด-19 ที่กลับมาระบาดใหม่จะลุกลามกลายเป็นรอบสองและอาจหนักกว่าคราวที่แล้ว แต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่าไม่กระทบให้ลุยเที่ยวสงกรานต์หวังรายได้สะพัดท่องเที่ยว 3,700 ล้านบาท

วันสงกรานต์เป็นวันปีใหม่ไทยใช้ปฏิทินจุลศักราชถือวันที่ 13 เดือนห้าเป็นวันมหาสงกรานต์เป็นวันเปลี่ยนศักราชสมัยก่อนวันศกไทยไม่แน่นอนต้องดูดาวและโหราศาสตร์ สงกรานต์ปีนี้นางสงกรานต์ชื่อรากษสเทวีคือเทวีอยู่ในตระกูลยักษ์ป่านิสัยดุร้ายเป็นคนละวงศ์ ไม่เหมือนกับยักษ์ทศกัณฐ์ในเรื่องรามเกียรติ์ที่อยู่วงศ์พรหมเทพตามตำรากล่าวว่านางทรงพาหุรัดคือสวมใส่เครื่องประดับทำจากทองพร้อมทั้งทัดดอกบัวหลวง อาหารโปรดคือโลหิตพระหัตถ์ขวาทรงอาวุธตรีศูลมือข้างซ้ายทรงธนูศรนางนอนหลับตาบนหลังวราหะ (สุกร)  ผู้รู้ทำนายพยากรณ์ว่าจะเกิดอันตรายแก่บ้านเมืองมีเพลิงไหม้โจรผู้ร้ายชุกชุม ผู้คนจะเจ็บไข้ได้ป่วยซึ่งขณะนี้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 มีทุกวัน ตามดวงระบุว่าตกธาตุน้ำฝนดีตลอดปีแต่น้ำมากคงหมายถึงเจอพายุหลายลูกคงทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ทำให้พื้นที่เกษตรเสียหายรุนแรงประชาชนตกทุกข์ร้อนยากลำบากแสนแค้นที่กล่าวนี้เป็นเพียงคำพยากรณ์

ภูมิทัศน์แวดล้อมภายใต้คำทำนายสงกรานต์ปี 2564 อาจมาได้จากหลายปัจจัยเริ่มจากการยื้อของกลุ่มอำนาจที่ไม่อยากเสียอำนาจอยากอยู่นาน ๆ จนบ้านเมืองวุ่นวาย เห็นเค้าการเมืองในรัฐสภาที่ขัดแย้งปมแก้รัฐธรรมนูญที่เห็นไม่ตรงกันจนที่สุดต้องกลับมาสตาร์ทนับหนึ่ง

ขณะที่ภายในพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่จะลงรอยผสานสนิทมีอย่างน้อย      3 พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าควรรื้อแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรามีการกล่าวหาว่าพรรคแกนนำเตะถ่วงไม่จริงใจที่จะแก้แม้แต่บัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือจะสองใบก็เถียงกันไม่ลงตัว ประเด็นที่เห็นต่างกันคือการโละอำนาจสว.ที่ซีกรัฐบาลอยากให้คงไว้เพราะได้เปรียบขณะที่พรรคฝ่ายค้านอยากให้แก้ ประเด็นนี้อาจต้องรอถึงสงกรานต์ปีหน้าไม่ทราบได้   สงกรานต์ปีนี้ชื่อของนางเทวีก็ออกมาในทาง “ดุร้าย” มือสองข้างถืออาวุธจึงเป็นที่มาของการทำนายว่าจะเกิดเหตุรุนแรง

ก่อนสงกรานต์ไม่กี่วันเห็นได้จากชุมนุมการเมืองรายวันบนท้องถนนที่ต่อเนื่องมาเป็นปี มีการยกระดับร่วมมือกับรุ่นเก๋าอย่างคุณจตุพร พรหมพันธุ์และคุณณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ที่แยกวงกันแต่มีเป้าหมายเดียวกันเพื่อกดดันบิ๊กตู่จะลงเอยกันอย่างไรตอบไม่ได้ อย่าไปดูถูกพลังเหล่านี้กรณีศึกษาประเทศเมียนมาร์ควรใช้เป็นอุทาหรณ์เพราะประเทศไทยมีต้นทุนสูงไม่เหมือนพม่า ความรุนแรงที่ตามมาจากการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ของกลุ่มที่มีอำนาจ แต่เหตุการณ์ในอดีตบ่งบอกว่าอำนาจไม่คงทนไม่เคยชนะพลังของมวลชน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ใช่แค่เมืองไทยแต่ในหลายประเทศก็เหมือนกันต่อเนื่องหลายยุคหลายสมัยล้วนลงเอยในทิศทางเดียวกัน เพียงแต่จะเกิดเมื่อใดจะเจ็บ-ตายเศรษฐกิจประเทศชาติบ้านเมืองจะพังมากน้อยเพียงใดเท่านั้น ประวัติศาสตร์สอนให้รู้ว่าฮีโร่กับทรราชเป็นเส้นบางๆ ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดคือผู้ชนะ

คำทำนายว่าปีนี้ผู้คนจะเจ็บไข้ได้ป่วยจำนวนมากมาถึงวันนี้คงไม่ต้องเถียงว่าแม่นหรือไม่แม่นเพราะไวรัสโควิด-19 ยังระบาดไม่เลิกเป็นกันทั้งโลกแม้แต่ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ ระบาดเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ประเทศฝรั่งเศสช่วงก่อนสงกรานต์ประกาศล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ สำหรับประเทศไทยก่อนสงกรานต์ไม่กี่วันแนวโน้มการระบาดสูงขึ้นจาก   การติดเชื้อในเรือนจำหลาย ๆ จังหวัดและการระบาดในสถานบันเทิง อย่างเช่นผับแถวซอยทองหล่อถนนสุขุมวิท ที่เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นระบุว่าติดเชื้อจากที่นี่จนนำไปสู่การยกระดับจัดโซนควบคุมโรคทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลกลายเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดโซนสีแดง การแพร่ระบาดลุกลามไปจนถึงเซเลบ (Celeb), ดารา, นักร้อง, พริตตี้บางคนผลเป็นบวกจำนวนมากต้องกักตัวเองไม่เว้นแม้แต่รัฐมนตรี 14 ท่านซึ่งมีระดับรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 ท่านตรวจเชื้อผลเป็นบวกรวมอยู่ด้วยกระทบการประชุมครม.ต้องใช้ออนไลน์ ข่าวนี้คงดังไปทั้งโลกและย่อมมีผลต่อการฟื้นฟูท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ด้านประเด็นเศรษฐกิจคำพยากรณ์กล่าวไม่ชัดแต่การที่ระบุว่าประชาชนจะทุกข์ยากผู้ร้ายเต็มเมืองคงหมายถึงเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยหดตัวแบบหมดลูปลูกช่วงนั้นคนตกงานเป็น 2-3 ล้านคน ขณะนี้ว่างงานก็ยังล้านเศษ ธุรกิจมากมายปิดตัวหรือใกล้เจ๊ง ที่สะท้อนปัญหาคือหนี้ครัวเรือนปลายปีที่แล้วพุ่งสูงถึง 14.620 ล้านล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 89.3 ของจีดีพีเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันสูงขึ้นถึงร้อยละ 9.5 ในช่วง 1 ปีหนี้คนไทยตัวเงินเพิ่มขึ้นถึง 531,397 ล้านบาท จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยล่าสุดพบว่ารายได้ของประชาชนหดลดลงสัดส่วนถึง   ร้อยละ 56.2 และภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt per Revenue) เป็นครึ่งหนึ่งของรายได้โดยกลุ่มสำรวจร้อยละ 10.8 อยู่ในสภาพมีวิกฤตการเงิน

เห็นข้อมูลนี้อย่าพึ่งท้อใจเพราะเริ่มเห็นสัญญาณทางบวกสะท้อนจากส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมากลับมาเป็นบวกเป็นเดือนแรกในรอบหลายเดือน การนำเข้าเครื่องจักรเริ่มขยายตัวแสดงว่าการลงทุนเริ่มกลับมาตัวเลขที่น่าสนใจคือการนำเข้าวัตถุดิบ-สินค้ากึ่งสำเร็จรูปเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ขยายตัวถึงร้อยละ 24.4 เป็นสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมเริ่มมีออเดอร์เข้ามาทำให้กำลังการผลิตจะกลับมาขยายตัวส่งผลต่อการคลายตัวต่อการว่างงานและน่าจะเป็นการพ้นจุดต่ำสุด ที่ต้องติดตามคือเรื่องดินฟ้าอากาศที่ทำนายว่าน้ำมากจนท่วมหนักพื้นที่เกษตรเสียหายผู้คนลำบากยากแค้น เพราะแค่ต้นสงกรานต์ฝนก็เทอย่างหนักและจะมีพายุตามมาอีกหลายลูกหลายประเทศล้วนเจอวิกฤตจากภาวะภัยธรรมชาติแปรปรวนทำให้อดเสียวไม่ได้และหวังว่าคงไม่เกิด

ที่กล่าวนี้เอามาจากคำทำนายของผู้รู้ทางโหราศาสตร์ข้อมูลได้จากกูเกิ้ลเพียงแต่ปรับเหตุการณ์และสภาวะความน่าจะเป็นไปได้ใส่เข้าไปขอให้อ่านให้สนุกอย่าติดยึดเป็นสาระ เที่ยวสงกรานต์ปีนี้หยุดยาวมากบางคนได้หยุดถึง     10 วันก็ขอให้เที่ยวให้สนุก อย่าลืมใส่และพกหน้ากากอนามัยไปเยอะ ๆ ดูแลสุขภาพพร้อมทั้งถือหลักเมาอย่าขับเด็ดขาดเพราะแต่ละปีตายเป็นร้อย ได้สตางค์จากรัฐทั้งโครงการเราชนะ, โครงการเรารักกัน, โครงการจ่ายคนละครึ่ง เวลาใช้ก็ให้รูดซิปเงินในกระเป๋าไว้บ้างอย่าเที่ยวใช้จ่ายเพลินจนกระเป๋าแห้งกลายเป็นหนี้ที่เดิมมีมากอยู่แล้วให้มากขึ้นไปอีก...โชคดีนะครับ

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat