posttoday

เจ้าของธุรกิจในระบบทุนนิยม

18 พฤศจิกายน 2563

คอลัมน์ Great Talk

ถึง คุณเกรทครับ

ผมชื่ออาทนะครับ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ผมกำลังทำงานประจำอยู่เป็นพนักงานคนนึง ตำแหน่งก็ไม่ได้สูงมาก แต่ผมเป็นคนขยันและอดทนครับเลยทำให้ไต่เต้าจากพนักงานตัวเล็กๆ กลายมาเป็นหัวหน้าของบริษัทแห่งนี้

ตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้วครับมีลูกเล็กๆหนึ่งคนอายุได้ 2 ขวบ เลยมีความตั้งใจว่าจะเปิดบริษัทของตัวเอง แต่พอไปปรึกษาพี่ๆที่ หลายๆคนแนะนำผมมาว่าไม่ควรเปิดธุรกิจเอง ควรเป็นพนักงานบริษัทไปเรื่อยๆ เพราะสังคมเราเป็นระบบทุนนิยม หากเราไม่ใหญ่พอหรือไม่เกิดในตระกูลใหญ่ๆ ยากที่จะสู้เขาได้

ผมอยากถามคุณเกรทว่า ไอ้ระบบทุนนิยมนี่มันกีดกัน คนอย่างพวกผมมากนักหรอครับแล้วถ้าผมอยากเติบโตผมพอมีโอกาสอย่างไรได้บ้างครับ

ถึง คุณอาท

ระบบทุนนิยมคือ ระบบเศรษฐกิจที่เปิดโอกาสให้บุคคลหรือบริษัทเอกชนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือทรัพยากรต่างๆ เช่นให้ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งสามารถเป็นเจ้าของ ที่ดินรวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่างๆในประเทศเพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นเติบโต

ในขณะที่ ระบบสังคมนิยม คือ รัฐจะเป็นผู้ครอบครองทรัพยากรการผลิตพื้นฐานไว้ทั้งหมด เป็นผู้วางแผนเศรษฐกิจกำหนดแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งมีความคล้ายกับระบบคอมมิวนิสต์ ต่างกันตรงที่คอมมิวนิสต์จะมีการรวมอำนาจไว้ที่รัฐเกือบจะ 100%

ผมต้องอธิบายนิดนึงก่อนว่า ณ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นระบบแบบผสม ซึ่งหมายความว่า เป็นระบบทุนนิยมและสังคมนิยมร่วมกัน กล่าวคือ เราสามารถซื้อกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือถือครองทรัพย์สินเองได้เช่น คอนโด บ้าน ส่วนระบบสาธารณูปโภค รัฐจะเป็นผู้ดำเนินการเอง

เอาคร่าวๆนะครับ ไม่ขอลงลึกมากเดี๋ยวจะปวดหัว เอาง่ายๆว่าหากคุณมีทุน(อันนี้รวมถึงมี บ้านหรือรถของตัวเอง) ก็สามารถทำกิจการใดๆก็ได้ที่คุณต้องการทำ

คราวนี้ ไอ้ระบบทุนนิยมมันดียังไง ข้อดีคือ มันเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันได้อย่างเสรีนี่แหล่ะครับ คือใครดีใครได้นั้นเอง เพราะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มี “ทุน” เพื่อหาทุนให้เพิ่มขึ้นเพื่อขยาย อาณาจักรของตนเอง ไปสู่ลูกหลานของเราได้และนี่คือข้อดีที่สุดของ ระบบทุนนิยมครับ

อธิบายง่ายๆครับ ถ้าคุณอาทมีลูกหรือหลานในอนาคต การที่คุณเริ่มทำธุรกิจของตนเองจะทำให้ครอบครัวสบายขึ้นนั้นเองครับ คราวนี้ก็อยู่ที่คุณอาทตัดสินใจครับแต่ระบบทุนนิยมไม่ได้กีดกันเราอย่างที่หลายคนบอกครับตรงกันข้ามกลับเปิดโอกาสให้เรามากกว่าครับนิ