ถึงคุณเกรท
ผมชื่อชาญครับปัจจุบันผมทำงานเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆที่ภาคเหนือเรื่องมีอยู่ว่าผมมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเป็นคนเก่งมีความสามารถเรียนหนังสือสูงส่วนตัวผมเองเรียนไม่ได้สูงมากครับจบปวสส่วนเขานั้นเรียนจบด๊อกเตอร์เวลาทำงานด้วยกันก็ดีนะครับนิสัยส่วนตัวเขาดีเข้ากับผมได้ดีแต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่างานที่ทำด้วยกันมันมีปัญหาน่ะสิครับคือมันจะมีงานที่เขาต้องเอาไปทำให้เสร็จเพื่อให้ผมเอามาทำต่อแต่มันไม่เสร็จสะทีในส่วนของเขา
แต่เขาก็มีเหตุผลมากมายเช่นเป็นเพราะเราเองที่แจ้งรายละเอียดไม่ชัดเจนหรือเป็นเพราะฝั่งลูกน้องเขาเองมีปัญหาหรือมีเหตุผลอื่นๆอีกมากมายซึ่งผู้ถือหุ้นคนอื่นที่ร่วมงานเดียวกันก็เหนื่อยเต็มทนแต่ก็พูดอะไรไม่ได้มากเพราะไม่อยากทะเลาะกันผมก็อึดอัดเพราะงานยิ่งช้าความเสียหายก็มากขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ผมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อยากปรึกษาคุณเกรทครับว่าควรทำอย่างไรดีครับ
ถึงคุณชาญ
ผมมีนิทานเรื่องนึง มาเล่าให้ฟังครับ ชื่อเรื่อง “การเดินทางของความสุข”
แทบไม่มีใครรู้เลยว่า ใต้พื้นโลกของเรามีอุโมงค์ ที่เชื่อมเมืองต่าง ๆ เข้าด้วยกันซึ่งอุโมงค์ดังกล่าว เป็นเส้นทางลับ ที่มีแต่สัตว์เท่านั้นที่รู้ทางเข้าออก
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่หมีแพนด้าตัวน้อย กำลังก้มหน้าก้มตากินใบไผ่ จู่ๆเจ้าหมีแพนด้าก็เหลือบไปเห็นดอกไม้หายากที่ทั้งสวยทั้งหอมแอบชูช่ออย่างเหนียมอายอยู่หลังกอไผ่
หมีแพนด้ารู้ดีว่า ดอกไม้หายาก บานได้เพียงวันเดียวก็เหี่ยวเฉา หมีแพนด้าอยากให้เพนกวินเพื่อนสนิท ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้หายากนี้บ้าง
แต่บ้านของเพนกวินอยู่ไกลถึงขั้วโลก หากเดินทางตามปกติ ดอกไม้หายากคงเหี่ยวเฉาไปก่อนแน่ ๆ แต่โชคดีที่หมีแพนด้ารู้ว่า ทางเข้าอุโมงค์ลับอยู่ที่ไหน มันจึงรีบเก็บดอกไม้ใส่ตะกร้า แล้วเดินทางผ่านอุโมงค์ลับ เพื่อไปหานกเพนกวินที่ขั้วโลกทันที
เพนกวินน้อยมีความสุขมาก เมื่อได้รับดอกไม้หายากจากแพนด้า เมื่อหมีแพนด้ากลับเมืองจีนไปแล้ว เพนกวินน้อยก็คิดอยากจะให้ลูกจิงโจ้ ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้หายากนี้บ้าง
แต่บ้านของจิงโจ้อยู่ที่ออสเตรเลีย หากเดินทางตามปกติ ดอกไม้หายากคงเหี่ยวเฉาไปก่อนแน่ๆ แต่โชคดีที่เพนกวินน้อยรู้ว่า ทางเข้าอุโมงค์ลับอยู่ที่ไหน มันจึงรีบคาบตะกร้าดอกไม้ แล้วเดินเตาะแตะผ่านอุโมงค์ลับ เพื่อไปหาลูกจิงโจ้ที่บ้านทันที
ลูกจิงโจ้มีความสุขมาก ที่ได้รับดอกไม้หายากจากนกเพนกวิน เมื่อเพนกวินลากลับขั้วโลกไปแล้ว ลูกจิงโจ้จึงคิดอยากให้ช้างน้อย ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้หายากนี้บ้าง
แต่บ้านของช้างน้อยอยู่ไกลถึงอัฟริกา หากเดินทางตามปกติ ดอกไม้หายากคงเหี่ยวเฉาไปก่อนแน่ ๆ แต่โชคดีที่จิงโจ้รู้ว่า ทางเข้าอุโมงค์ลับอยู่ที่ไหนมันจึงรีบเอาดอกไม้ใส่ถุงหน้าท้อง แล้วกระโดดดึ๋งๆ ผ่านอุโมงค์ลับ เพื่อไปหาช้างน้อยที่อัฟริกาทันที
ช้างน้อยมีความสุขมาก ที่ได้รับดอกไม้หายากจากลูกจิงโจ้ เมื่อลูกจิงโจ้ ลากลับไปแล้ว ช้างน้อยก็คิดอยากให้เพื่อนสนิทของมัน ได้ดมกลิ่นหอมของดอกไม้หายากนี้บ้าง แต่บ้านเพื่อนสนิทของช้างน้อยอยู่ที่จีน หากเดินทางตามปกติ ดอกไม้หายากคงเหี่ยวเฉาไปก่อนแน่ๆ
แต่โชคดีที่ช้างน้อยรู้ทางเข้าอุโมงค์ลับ มันจึงรีบเอางวงคล้องตะกร้าดอกไม้ แล้วเดินทางผ่านอุโมงค์ลับเพื่อไปหาเพื่อนของมันที่เมืองจีนทันที
………………….
มีใครรู้บ้างว่าเพื่อนของช้างน้อยคือใคร
………………….
ใช่แล้ว เพื่อนของช้างน้อยก็คือ หมีแพนด้าตัวที่เก็บดอกไม้หายาก ไปฝากนกเพนกวินนั่นเอง
หมีแพนด้าทั้งดีใจและแปลกใจมาก ที่ได้เห็นดอกไม้หายากอีกครั้ง ในชั่วเวลาเพียงแค่วันเดียว ถ้าหมีแพนด้าไม่นำดอกไม้ไปฝากเพื่อน กว่าจะได้เห็นดอกไม้หายากอีกครั้ง มันคงต้องรอไปอีกหลายปีเป็นแน่
แต่เมื่อต่างคนต่างอยากมอบความสุขให้แก่กัน การเดินทางของความสุขจึงเกิดขึ้น
บ่อยครั้งที่จุดเริ่มต้นของเป้าหมายเดียวกัน คือ ความสุข บ่อยครั้งที่จุดเริ่มต้นของเป้าหมายคือการสร้างประโยชน์สุขร่วมกัน แต่อุปสรรคระหว่างทางอาจทำให้ พวกเราหลายคนต้องเจอปัญหาทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงตัวกันบ้าง
หลายครั้งไม่เข้าใจกัน โกรธกัน ไปจนถึงขั้นเกียจชังกัน จากเป้าหมายการส่งมอบความสุขซึ่งกันและกันแปรเปลี่ยนเป็นสร้างบาดแผลทิ่มแทงกันระหว่างทาง
คำแนะนำของผมคือเราอาจต้องลองมองย้อนกลับไปว่าเราร่วมทางกันเพราะเป้าหมายแห่งความสุขและสร้างประโยชน์ด้วยกันหรือไม่
หากในปัจจุบันมีปัญหาควรร่วมพูดคุยกันหาข้อตกลงกันและร่วมฟันฝ่าหนทางแห่งความลำบากไปด้วยกัน
แต่หากเป้าหมายของใครบางคนเปลี่ยนไปแล้วก็แยกทางกัน แม้เป้าหมายของใครบางคนเปลี่ยนไปแต่ความสัมพันธ์ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไปแน่นอน