posttoday

ความ (ไม่) คาดหวังครม. ......18 อรหันต์

15 กรกฎาคม 2562

โดย...ดร.ธนิต โสรัตน์  รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

โดย...ดร.ธนิต โสรัตน์  รองประธานสภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

ที่สุดหลังจากเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. จนเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วได้รายชื่อ ซึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีใช้เวลา 3 เดือนกับอีกนิดหน่อยเป็นการจัดโผลครม.ที่นานและวุ่นวายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เหตุเพราะคะแนนเสียงที่ได้ของ 2 ขั้วก่ำกึ่งต่างกันแบบเฉียดฉิวทำให้คุณประยุทธ์ฯ ต้องไปดึงพรรคการเมืองทั้งขนาดกลาง พรรคเล็กและพรรคปลาซิวปลาสร้อยรวมกันเป็น “18 อรหันต์”

การเจรจาต่อรองตำแหน่งกลับไปกลับมาวุ่นวายจบยากเรียกว่าต่อรองกันรายวัน กว่าจะเจรจาลงตัวกับ พรรคร่วมได้ก็เรียกว่าหืดขึ้นคอ แต่ศึกนอกไม่เท่าปัญหาภายในพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคที่หนุนลุงตู่กลับมาเป็น “นายกฯ สมัยที่ 2” ศึกในพรรคหากเป็นหนังเรียกว่ามันส์สุด ๆ มีการเล่นเกมส์โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตรที่แกนนำขู่ถอนตัวรายวันหากไม่ได้นั่งกระทรวงที่ตกลงกันขนาดปรามาสว่าชายชาติทหารต้องรักษาคำพูดปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่ค่อยได้เคยมีในการเมืองไทย

การประลองกำลังผลออกมาอย่างไรดูจากรายชื่อครม.และกระทรวงสำคัญที่แกนนำพรรคร่วมได้ไป แสดงถึงการลอมชอมยอมกัน หากจะชี้ว่าใครกลืนเลือดระหว่างคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่พลาดเก้าอี้กระทรวงพลังงานกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องบอกก็คงรู้เพราะช่วงที่ลุงตู่หัวหน้าคสช.ปฏิวัติโดยอ้างเพื่อปราบนักการเมืองสกปรกมีประวัติไม่ดีมือไม่สะอาดแต่จากรายชื่อครม.หลายคนไม่เรียกว่า “โคตรขี้เหร่” แล้วจะให้เรียกว่าอะไร บางคนมีตำหนิหรือแผลเป็นที่ยังไม่ตกสะเก็ด เช่น เกี่ยวข้องกับยาเสพติด, ประวัติเป็นมาเฟีย, บางคนเกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อแบงก์รัฐที่เป็นการทุจริต, รัฐมนตรีบางคนเคยถูกปปช.ไต่สวนชี้มูลทุจริตคดีสินบนซื้อเครื่องบินของการบินไทย, รัฐมนตรีบางคนเคยมีคดีศาลพิพากษาบุกรุกที่ดินสปก., บ้างก็มีแบล็คลิสต์เกี่ยวกับธุรกิจมืด ฯลฯ

จากรายชื่อที่กล่าวแสดงว่าลุงตู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลแทบไม่มีสิทธิ์ดูหน้าหรือตรวจสเปคส่งรายชื่อมาต้อง “YES” ลูกเดียวมีเพียงคนเดียวที่หลุดโผ ทำให้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้ทีมครม.ที่ส่วนใหญ่ตนเองไม่ได้เลือก การทำงานจึงไม่ง่ายเนื่องจากพรรคร่วม 17-18 พรรคจะไป คนละทิศละทางถึงแม้จะมีการประชุมเกลี่ยนโยบายที่หลากหลายให้เป็นนโยบายรัฐบาลเพื่อที่จะนำไปแถลงในรัฐสภา แต่คลื่นใต้น้ำคงไม่สงบในพรรคพลังประชารัฐมีรอยแผลเป็นจากความแหนงใจเรื่องโผลครม.ก่อนหน้า ในสภาเป็นการเปิดแผลให้ฝ่ายค้านมีประเด็นที่จะอภิปรายและสอยเพราะประชาชนส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยว่าเป็นปัญหาจริง ๆ ในวันอภิปรายแถลงนโยบายคงจะเห็นการขุดคุ้ยและแฉซึ่งก็คงผ่านแต่ก็จะเป็นแบบสะบักสะบอม

ความคาดหวังของประชาชนจาก “ครม.ประยุทธ์ 2” เป็นเรื่องแก้ปัญหาปากท้องเฉพาะหน้าการแก้ปัญหาสตางค์ไม่มี สินค้าเกษตรราคาตกต่ำโดยเฉพาะข้าวและปาล์มน้ำมัน ภาคธุรกิจผู้นำองค์กรระดับประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพและการทำงานที่จะไปกันคนละทิศละทาง ที่วิตกมากเกี่ยวกับกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแรงโดยที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจใช้ได้ในระยะสั้นมากๆ ที่ผ่านมาอัดเงินเท่าใดไปตุงอยู่ในร้านค้าปลีกสะดวกซื้อซึ่งบริษัทเดียวแต่มีสาขาเป็นหมื่นแห่งทำให้เงินไปกระจุกไม่กระจายหลายทอดเหมือนในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา

ด้านทีมงานเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งมาจาก 4-5 พรรคและในพรรคเดียวกันยังมีหลายมุ้งซึ่งจะไม่เป็นเอกภาพถึงแม้ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะมานั่งรองนายกเศรษฐกิจ จะเอาไหวไหม? จะชี้มือสั่งใครเหมือนก่อนได้ไหม? อย่างเก่งก็คงสั่งได้เฉพาะกระทรวงการคลังและพลังงานที่เจ้ากระทรวงเป็นลูกน้อง ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมถึงจะพรรคเดียวกันแต่จะชอบขี้หน้ากันหรือป่าว...ตรงนี้ผมไม่รู้

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ คมนาคม เกษตรและสหกรณ์ไม่ต้องพูดถึงเป็นคนละพรรคและหัวหน้าเขาไปนั่งคร่อมเป็นรองนายกฯศักดิ์ศรีเท่ากัน แถมออกมาบอกว่าจะเดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียง ตรงนี้ก็บอกสัญญาณเป็นนัย ๆ ว่าทีมเศรษฐกิจจะเป็นเอกภาพหรือไม่ ปรากฏการณ์ครม.ซึ่งนอกจากขี้เหร่แล้วยังดูจะไม่ค่อยจะเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลงการส่งออกไม่ให้ติดลบเป็นความ ท้าทายค่อนข้างสูง

ส่วนเงินบาทมีความพยายามจะให้อ่อนค่าแต่คงเป็นไปตามกลไกเพราะไทยจัดว่าเป็น “Safety Zone”ของเงินทุนร้อนที่จะไหลเข้ามาพักพิง ปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา เช่น เกษตรกรขายสินค้าไม่ได้ราคาจะดาหน้าเข้ามาที่ทำเนียบ พรรคฝ่ายค้านที่ไม่ธรรมดาที่คอยจ้องเอาเรื่องหรือคอยสอย จะทำให้การทำงานในสภาหรือการออกกฎหมายต่าง ๆ กลายเป็นเกมส์ชิงไหวชิงพริบ ครม.ชุดนี้หากจะให้ทำงานได้ต้องพกทั้งหลวงพ่ออยู่และหลวงพ่อรอด....เหนื่อยแทนประเทศไทยจริง ๆ ครับ

(สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com  หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)