posttoday

บอร์ดกทพ.ปลดล็อคคดีค่าโง่ ล้างหนี้ 'บีอีเอ็ม'แลกยกสัมปทานทางด่วน 3 สัญญา 30ปี

15 พฤษภาคม 2562

บอร์ด กทพ.ไฟเขียวยกสัมปทานทางด่วน3 สัญญา 30 ปี ล้างหนี้ บีอีเอ็ม เซ็ตซีโร่ค่าโง่ 1.3 แสนล้าน อ้างได้ประโยชน์เท่าเดิมไม่เสียเปรียบ เตรียมเสนอครม.เคาะ

บอร์ด กทพ.ไฟเขียวยกสัมปทานทางด่วน3 สัญญา 30 ปี ล้างหนี้ บีอีเอ็ม เซ็ตซีโร่ค่าโง่ 1.3 แสนล้าน อ้างได้ประโยชน์เท่าเดิมไม่เสียเปรียบ เตรียมเสนอครม.เคาะ

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่าที่ประชุมบอร์ดมีมติเห็นชอบการยุติข้อพิพาททางด่วนที่ศาลปกครองให้ กทพ.จ่ายค่าชดเชยกรณีสร้างทางแข่งขัน และการปรับขึ้นค่าผ่านทางไม่เป็นธรรม ให้กับ บริษัท กรุงเทพทางด่วนเหนือ จำกัด (NECL) บริษัทในเครือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีเอ็ม) วงเงิน 4 พันล้านบาท โดยอนุมัติให้ กทพ.ขยายสัมปทานทางด่วน 3 สัญญา จำนวน 30 ปี นับจากวันที่แต่ละสัญญาสิ้นสุดลง เพื่อแลกกับมูลหนี้ทั้งหมด

นอกจากนั้นยังให้ดำเนินการเซ็ตซีโร่ค่าชดเชยทางด่วน เพื่อแลกกับคดีที่ฟ้องร้องศาลรวมทั้งหมด 17 โครงการ มูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท เหลือประมาณ 5.9 หมื่นล้านบาท เป็นผลให้การเจรจาในครั้งนี้ กทพ.จะขยายสัมปทานเพื่อแลกกับมูลหนี้ ประกอบไปด้วยโครงการ 1.ทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) 2.ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนดี ช่วงพระราม 9 – ศรีนครินทร์ และ 3.ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการเจรจาร่วมบีอีเอ็ม ยอมปรับลดมูลหนี้ที่เกิดจากข้อพิพาท และมูลหนี้ที่คาดว่าจะเป็นข้อพิพาทในอนาคต ขณะเดียวกันภายใต้สัญญาใหม่มีการกำหนดปรับค่าผ่านทางแบบคงที่ โดยจะปรับขึ้นทุก 10 ปี อัตรา 10 บาท จากเดิมปรับตามค่าดัชนีผู้บริโภค (CPI) ขณะเดียวกัน เอกชนจะต้องลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงทางด่วนขั้นที่ 2 เป็นทางด่วน 2 ชั้น (double deck) จากด่านประชาชื่น-อโศก ระยะทาง 17 กิโลเมตร (กม.) รูปแบบเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจร ภายใต้วงเงินการลงทุนประมาณ 31,500 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนแบ่งรายได้ยังกำหนดไว้ที่ กพท. 60% และ บีอีเอ็ม 40% คงเดิม

"การประชุมครั้งนี้ถือว่าได้ข้อยุติลง คดีข้อพิพาทก็จะยุติลง ไม่มีการฟ้องอะไรกันอีกแล้ว 17 คดี 1.3 แสนล้าน ก็ยกออกไปหมด กรณีสร้างทางแข่งขัน และการปรับขึ้นค่าผ่านทางไม่เป็นธรรมจะไม่ถูกเป็นข้อพิพาทอีก แต่อำนาจหลังจากนี้อยู่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะเห็นชอบตามที่เราพิจารณาไว้ไหม ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะเร่งเสนอคณะกรรมการมาตรา 43 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ หรือคณะกรรมการกำกับโครงการ กระทรวงคมนาคม และ ครม.”นายสุรงค์ กล่าว

นายสุรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีข้อผิดพลาดนี้จะต้องมีกระบวนการยกเลิกการฟ้องต่างๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเจรจาครั้งนี้ได้ข้อยุติ แต่ไม่ได้เป็นที่สิ้นสุดอำนาจในการตัดสินใจอนุมัติหรือไม่อนุมัติเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี(ครม.) เราได้ทำตามคำสั่งของของ ครม.ให้ดำเนินการเจรจา ระงับข้อพิพาทและดำเนินการให้ดีที่สุดเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประเทศ โครงการนี้ยืนยันว่า 1. กทพ.ได้ประโยชน์เท่าเดิมไม่ได้เสียเปรียบ 2. รัฐบาลไม่ต้องมีภาระหนี้สินกับภาคเอกชน 3.ประชาชนได้ประโยชน์ เรามุ่งในการเจรจาเพื่อประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชนในการสัญจรในทางด่วนจะมีการสร้าง double deck เพื่อระบายรถให้การสัญจรที่ติดขัดมีการไหลโฟร์ที่ดีขึ้นที่สุดแล้วผลประโยชน์จะต้องตกอยู่ที่ประชาชนส่วนอัตราการขึ้นค่าผ่านทางก็เป็นไปตามมาตรฐานมีการกำหนดที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเร่งส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อให้คณะกรรมการกำกับสัญญา พิจารณาและเสนอครม.ต่อไป โดยระหว่างนี้อัยการสูงสุดจะตรวจร่างสัญญา ซึ่งหากครม.เห็นชอบตามผลการเจรจาการขยายเวลาสัญญาทางด่วนแต่ละสัญญาออกไป 30 ปี จะมีการเซ็นสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม กับ บีอีเอ็มใน 3 โครงการ ดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของสัญญาเดิมที่จะยังไม่สิ้นสุด จะยังคงเป็นไปตามตามเงื่อนไขเดิมจนครบสัญญาเดิม