posttoday

เพิ่มรถเมล์-เรือรับเปิดเทอม

11 พฤษภาคม 2562

คมนาคมสั่งเพิ่มรถเมล์ 10% รับเปิดเทอม พร้อมคุมเข้มสามเส้นทาง สามเสน-อโศก-สีลม สั่งหยุดก่อสร้างแก้รถติดควบดูแลความปลอดภัยหน้าโรงเรียน ด้านกรมเจ้าท่าสั่งเพิ่มเที่ยวเรือเจ้าพระยา

คมนาคมสั่งเพิ่มรถเมล์ 10% รับเปิดเทอม พร้อมคุมเข้มสามเส้นทาง สามเสน-อโศก-สีลม สั่งหยุดก่อสร้างแก้รถติดควบดูแลความปลอดภัยหน้าโรงเรียน ด้านกรมเจ้าท่าสั่งเพิ่มเที่ยวเรือเจ้าพระยา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับเยาวชนรองรับการเดินทาง ช่วงเปิดภาคเรียน 2562 ตลอดจนแก้ปัญหาจรจรติดขัด พร้อมกำหนด มาตรการรองรับการเดินทางช่วงเปิดภาคเรียน 2562 ระหว่างวันที่ 13 – 24 พฤษภาคม 2562 ดาเนินงาน แบ่งตามพื้นที่ดังนี้

1. พื้นที่กรุงเทพมหานคร

1.1 ให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ร่วมกับตารวจจราจร เพื่อกากับ

ดูแลความเรียบร้อย ความปลอดภัยบริเวณหน้าโรงเรียนและจุดเชื่อมต่อการเดินทาง รวมทั้งกากับดูแลรถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่ให้เอาเปรียบผู้โดยสาร โดยเฉพาะเส้นทางที่สานักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นที่ 1 ถนนสามเสน ราชวิถี นครราชสีมา เส้นที่ 2 ถนนอโศก เพลินจิต สุขุมวิท และเส้นที่ 3 ถนนสีสม สาทร เจริญกรุง รวมถึงบริเวณที่มีผู้โดยสารและการจราจรหนาแน่น เช่น ถนนบางนา ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สะพานกรุงธน ถนนพระราม 6 หน้าโรงเรียนสามเสน สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต เป็นต้น

1.2 ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพิ่มปริมาณรถโดยสารสาธารณะร้อยละ 10 หรือประมาณ 22,200 เที่ยวต่อวัน ในเส้นทางที่ผ่านสถานศึกษา พร้อมจัดผู้ตรวจการกากับดูแลการให้บริการ และความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ขสมก. และรถร่วมบริการ เช่น จัดระเบียบการจอดรับส่ง ไม่กีดขวางการจราจร ดูแลความปลอดภัยของนักเรียนขณะขึ้น - ลงรถ เป็นต้น

1.3 ให้ ขบ. ตรวจสภาพความพร้อมของรถโดยสารประจาทางและรถโรงเรียน โดยเฉพาะ อุปกรณ์ความปลอดภัยประจารถ และการปล่อยควันดาผ่านท่อไอเสีย

1.4 ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จากัด ดูแลความเรียบร้อย อำนวยความสะดวกในเส้นทางและสถานีที่ผ่านสถานศึกษา

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ รฟม. เร่งคืนพื้นที่ก่อสร้างที่ไม่จาเป็นโดยเร็ว และร่วมกันแก้ไขปัญหากับผู้รับจ้างกรณีเกิดเหตุที่ทาให้การจราจรติดขัดเป็นเวลานาน รวมถึงพิจารณา แนวทาง การระบายน้าในช่วงฤดูฝน ไม่ให้เกิดปัญหาน้าท่วมขังเนื่องจากการก่อสร้างโครงการในความ รับผิดชอบ

1.6 ให้กรมเจ้าท่า (จท.) กากับดูแลความปลอดภัย ปริมาณนักเรียนและผู้ใช้บริการบริเวณ ท่าเรือ การโดยสารเรือข้ามฟากและเรือด่วน โดยเฉพาะบริเวณที่มีนักเรียนโดยสารทางเรือเพื่อเชื่อมต่อกับ รถโดยสารประจาทาง ทั้งนี้ จท. ได้ประสานผู้ประกอบการเรือโดยสารเพิ่มเที่ยวเรือวันละ 1 – 2 เที่ยว รวมทั้งกาชับพนักงานประจาท่าเรือดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษ

1.7 ให้กรมทางหลวง (ทล.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมกับตารวจทางหลวง จัดเจ้าหน้าที่กำกับการจราจรบนทางพิเศษและทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองในเส้นทางหลักเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางฯ เพื่อไม่ให้จราจรสะสมคับคั่ง

1.8 ให้ รฟท. บริษัท ขนส่ง จากัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จากัด (มหาชน) และ กรมท่าอากาศยาน อานวยความสะดวกแก่นักเรียนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยแนะนาเส้นทางในกรณีที่เข้า กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก

นายอาคมกล่าวต่อว่าขณะที่ในต่างจังหวัดนั้นมีการกำหนดมาตรการดังนี้ 1. ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดเข้มงวดรถโรงเรียนและรถรับจ้างเอกชนทุกประเภท

ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวง กฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกาหนด สภาพรถมีความพร้อมทั้งความมั่นคงแข็งแรง มีอุปกรณ์ความปลอดภัยประจารถ และต้องไม่มีนักเรียน โหนหรือขึ้นไปนั่งบนหลังคารถอย่างเด็ดขาด

2.ให้ ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และสานักงานขนส่งจังหวัด ร่วมกับตำรวจท้องที่ และครู อำนวยความสะดวกและปลอดภัยบริเวณถนนหน้าโรงเรียนในความรับผิดชอบของ ทล. และ ทช. โดยเน้นโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีการจราจรหน้าโรงเรียนหนาแน่น รวมถึงให้หมวดการทาง เป็นผู้เลือกโรงเรียนที่จะเข้าปฏิบัติงานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในช่วงเช้า เวลา 07.00 น. – 08.00 น. และช่วงเย็น เวลา 15.00 – 16.00 น.

3.ให้ ทล. และ ทช. ปรับปรุงอุปกรณ์ความปลอดภัยหน้าโรงเรียนให้แล้วเสร็จ เช่น ทางม้าลาย ไฟสัญญาณจราจร ป้ายเตือนเขตโรงเรียน ทางเดินเท้า สะพานลอยคนข้าม เป็นต้น โดยกาหนดให้ ดาเนินการต่อเนื่องอย่างน้อยจังหวัดละ 5 โรงเรียน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของนักเรียน รวมทั้ง ในอนาคตให้พิจารณาติดตั้งเสียงสัญญาณเตือนควบคู่กับทางม้าลายและสัญญาณไฟจราจร

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมเจ้าท่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้จัดเรือตรวจการณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานควบคุมการจราจรทางน้ำ และอำนวยความสะดวกความปลอดภัยทางน้ำ บริเวณท่าเรือสำคัญ ๆ ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น โดยเพิ่มความถี่ในการออกปฏิบัติงานช่วงเช้าจาก 10 เที่ยว เป็น 14 เที่ยว ช่วงเย็นจาก 4 เที่ยว เป็น 6 เที่ยว จัดเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ 56 ท่าเรือ จำนวน 135 นาย ทั้งในแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองแสนแสบ ทั้งนี้ ได้ประสานผู้ประกอบการเรือ สมาคมเรือไทย บริษัท ครอบครัวขนส่ง 2002 จำกัด บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด บริษัท สุภัทรา จำกัด ให้เพิ่มเที่ยวเรือ และจำนวนเรือให้เพียงพอต่อการให้บริการในช่วงเปิดเทอม ผู้ประกอบการเรือข้ามฟากได้เพิ่มเรือให้บริการจำนวน 6 ลำ ได้แก่ ท่าเรือสาทร (ปกติ 2 ลำ) เพิ่ม 1 ลำ , ท่าเรือสี่พระยา - คลองสาน (ปกติ 3 ลำ) เพิ่ม 1 ลำ , ท่าเตียน - วัดอรุณ (ปกติ 2 ลำ) เพิ่ม 2 ลำ , ท่าช้าง – วังหลัง (ปกติ 2 ลำ) เพิ่ม 1 ลำ และ ท่าวังหลัง – พระจันทร์เหนือ (ปกติ 2 ลำ) เพิ่ม 1 ลำ ในส่วนเรือด่วนเจ้าพระยาได้เพิ่มเที่ยวเรือในเส้นทาง ท่าเรือนนทบุรี – วัดเขมา – วัดสร้อยทอง จำนวน 2 เที่ยว ช่วงเวลา 06.45 และ 07.00 น. และเส้นทาง ท่าเรือนนทบุรี – ปากเกร็ด จำนวน 2 เที่ยว ช่วงเลา 07.15 และ 07.30 น. เรือโดยสารในคลองแสนแสบเพิ่มเรือให้บริการจำนวน 4 ลำ ในเส้นทางจากท่าเรือวัดศรีบุญเรือง – ท่าเรือประตูน้ำ

สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาในพื้นที่รับผิดชอบ จัดเรือตรวจการณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานควบคุมการจราจรทางน้ำ และอำนวยความสะดวกความปลอดภัยทางน้ำ บริเวณท่าเรือสำคัญ ๆ ที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น โดยเพิ่มความถี่ในการออกปฏิบัติงาน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ออกประกาศกรมเจ้าท่า เรื่อง มาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันเปิดภาคการศึกษาประจำปี 2562 ท่าเรือและโป๊ะเทียบเรือต้องมีป้ายระบุจำนวนคนที่สามารถรับน้ำหนักได้ มีไฟส่องสว่างเพียงพอ มีพวงชูชีพและต้องมีที่กั้นทางเดินขึ้น-ลงด้วย สำหรับเจ้าของเรือต้องตรวจสภาพตัวเรือ เครื่องจักรยนต์ และอุปกรณ์ประจำเรือให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ป้ายระบุจำนวนผู้โดยสาร พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ปลอดภัยผู้ใช้บริการ และต้องไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าจำนวนที่ระบุไว้ นอกจากนี้ได้ออกคำสั่งกรมเจ้าท่าให้เข้มงวดกวดขันในการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันเปิดภาคการศึกษาประจำปี 2562 ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค