posttoday

ยื้อเจรจาจัดซื้อรถไฟไฮสปีดจบไม่ทันเลือกตั้ง

04 มีนาคม 2562

จัดซื้อรถไฟความเร็วสูงจบไม่ทันเลือกตั้ง "อาคม" จี้ฝ่ายจีนแจงสเปค-หวั่นโดนโขกราคา คาดกู้เงินจีนลงทุนงานระบบ 3.8 หมื่นล้าน ยันค่าตั๋วต้องถูกกว่าเครื่องบิน

จัดซื้อรถไฟความเร็วสูงจบไม่ทันเลือกตั้ง "อาคม" จี้ฝ่ายจีนแจงสเปค-หวั่นโดนโขกราคา คาดกู้เงินจีนลงทุนงานระบบ 3.8 หมื่นล้าน ยันค่าตั๋วต้องถูกกว่าเครื่องบิน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมเปิดเผยในงานนิทรรศการยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งไทยระยะ 20 ปีว่าจากการประชุมคณะทำงานความร่วมมือรถไฟไทย-จีนในครั้งที่ผ่านมานั้น เรื่องสัญญา 2.3 งานระบบราง ระบบไฟฟ้า และเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร นั้นได้ปรับเปลี่ยนค่าก่อสร้างมาเพิ่มในวงเงินสัญญานี้อีก 7 พันล้านบาทรวมวงเงินทั้งหมด 4.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ยังไม่สามารถลงนามร่วมกันได้เนื่องจากมีรายละเอียดต้องคุยอีกมาก จึงต้องขยับเป้าการลงนามสัญญาไปในเดือนเม.ย. โดยฝ่ายจีนยังคงเสนอราคามากกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนด้านหลักประกันการันตีนั้นยังคงตกลงกันไม่ได้เพราะไทยต้องการตามสากลคือ 2 ปี ทว่าทางฝ่ายจีนกลับมีข้อแม้ว่าหากขยานการันตีเป็น 2 ปี วงเงินสัญญาก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก ทางฝ่ายไทยตอบกลับไปว่าหากสินค้าดีจริงทำไมอายุประกันแค่ 1 ปี

ส่วนจะซื้อรถรุ่นไหนนั้นคงต้องมาเปรียบเทียบสเปคอีกทีซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนและราคาค่าโดยสารที่ประชาชนรับได้ด้วย ค่าโดยสารรถไฟไฮสปีดไม่ควรสูงเกินกว่าค่าตั๋วเครื่องบิน ส่วนเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีเชื่อว่าฝ่ายจีนจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างจริงใจเพราะเป็นสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐบาล(G2G)

"ที่ผ่านมามีความล่าช้าในขั้นตอนดำเนินโครงการนี้ทั้งเรื่องการเจรจาสัญญา ร่างประกวดราคาที่ต้องเป็นสากลไม่ใช่ภาษาจีน รวมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องมีการเปรียบเทียบกับที่อื่นได้ ไม่ใช่สินค้า 1 บาทแต่บอกราคา 10 บาท ส่วนเฟส 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม.นั้นจะทำให้จีนดูว่าเราทำได้ ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างเองและจะทำให้เร็วด้วย" นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวต่อว่าเรื่องวงเงินลงทุนสัญญา 2.3 นั้นคงใช้การลงทุนโดยเงินกู้จากจีน คาดว่าจะใช้เงินกู้ราว 3.82 หมื่นล้านบาท หรือราว 85% ของวงเงินลงทุน ถ้าหากตกลงกันได้ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 3% ต่อปี ส่วนความคืบหน้าการประมูลงานก่อสร้างนั้นจะมีการลงนามสัญญาที่ 2 ตอนสีคิ้ว-กุดจิก วงเงิน 3.3 พันล้านบาทในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ขณะที่สัญญาก่อสร้างที่เหลืออีก 12 สัญญามูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาทนั้นจะทยอยลงนามสัญญาเป็นสองช่วง กลุ่มแรก 5 สัญญารวม 111 กม. ลงนามภายในมิ.ย.นี้ ขณะที่อีก 7 สัญญา ลงนามภายในเดือนก.ค.นี้ โดยมีกำหนดเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

อย่างไรก็ตามการประชุมร่วมกันยังได้ข้อสรุปเรื่องการก่อสร้างตอนที่ 3 ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์นั้นจะมีการก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงโดยแต่ละฝ่ายแยกกันลงทุนและก่อสร้างในดินแดนของตัวเอง ส่วนตัวโครงสร้างพื้นฐานด้านสะพานนั้นแบ่งกันลงทุนฝ่ายละ 50% ประกอบด้วย3 ราง ได้แก่ รางรถไฟไฮสปีด 2 รางและรางรถไฟทางคู่ 1 ราง ขณะที่การเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้านั้นรฟท.จะก่อสร้างสถานีหนองคาย จำนวน 2 สถานีแบ่งเป็นสถานีสำหรับสินค้าเป็นลานเทกองสินค้า(CY) เพื่อเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าลงรถไฟทางคู่และก่อสร้างสถานีสำหรับผู้โดยสารอีกแห่งแยกกันขณะนี้กำลังหาตำแหน่งที่ตั้งเหมาะสม

นายอาคมกล่าวอีกว่า ส่วนด้านรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ-หัวหิน วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาทนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอโครงการเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนพีพีพี คาดว่าจะสามารถเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติในเดือน มี.ค.นี้ ก่อนเปิดให้บริการได้ในปี 2570