posttoday

สอท.หวั่นตกงานพุ่ง เด็กจบใหม่ไม่ใช่สายวิชาชีพที่ตลาดต้องการ

18 กุมภาพันธ์ 2562

ไตรมาสแรกแนวโน้มรุนแรง เด็กจบใหม่เข้าระบบอีก 5 แสนคน เหตุเอไอเข้ามาแทนที่คน

ไตรมาสแรกแนวโน้มรุนแรง เด็กจบใหม่เข้าระบบอีก 5 แสนคน เหตุเอไอเข้ามาแทนที่คน

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราการว่างงานของคนไทยปี 2562 ทั้งปีคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-1.3% ของกำลังแรงงานทั้งหมดที่คาดว่าจะอยู่ประมาณ 38-39 ล้านคน หรือเฉลี่ยอัตราการว่างงานประมาณ 4-5 แสนคน ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2561 ที่มีอัตราการว่างงานเฉลี่ยระดับ 1%

ทั้งนี้ การว่างงานหลักๆ จะมาจากที่ภาคการผลิตส่วนใหญ่ปี 2562 จะไม่รับแรงงานเข้าทำงานใหม่ เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่จะกระทบต่อการส่งออกที่เติบโตลดลง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ขณะที่การลงทุนใหม่ที่จะก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นยังคงชะลอดูผลการเลือกตั้ง รวมถึงผู้ผลิตบางส่วนจะหันไปใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนเพื่อปรับเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0

“ไตรมาสแรกปีนี้แนวโน้มการว่างงานจะสูงมาก จากการที่จะมีนักศึกษาจบใหม่ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ เข้ามาเติมระบบราว 5 แสนคน และส่วนใหญ่จะพบว่ายังคงเป็นปัญหาเดิมๆ ที่แรงงานเหล่านี้กว่า 63% เป็นการจบปริญญาตรีมาและปริญญาตรีส่วนนี้เกือบ 50% เป็นสายสามัญที่ไม่ใช่วิชาชีพตามที่ตลาดแรงงานไทยต้องการมากนัก ส่วนนี้จะหางานยากอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเมื่อการจ้างงานใหม่ ช่วงไตรมาสแรกยังคงไม่ชัดเจนก็จะทำให้ดูเลขจะสูงขึ้นมาก” นายธนิต กล่าว

นายถาวร ชลัษเฐียร รองประธานงานสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า แนวโน้มที่ผู้ประกอบการจะใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ระบบหุ่นยนต์ หรือเทคโนโลยีในการบริหารจัดการจะมีมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคการผลิต ซึ่งจะมีการตกงานของคนไทยในอนาคตรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากทุกฝ่ายไม่เร่งปรับตัวรองรับ โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานและพัฒนาการศึกษาให้สอดรับกับกระแสเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง หรือ Disruptive Technology

“เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงมาตลอด แต่ช่วงนี้เปลี่ยนแปลงที่เร็วกว่าเดิมหลายเท่า เราพูดถึงแต่เรื่องนวัตกรรม แต่เราลืมเรื่องคนไป ซึ่งไทยเองกำลังจะประสบปัญหาในแง่การเข้าสู่สังคมสูงวัยภายในปี 2563 ทำให้วัยทำงานไม่เพียงพอ” นายถาวร กล่าว