posttoday

ค้านโยกเงินกองทุนสร้างตึก

15 กุมภาพันธ์ 2562

สตง.ค้านกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตั้งงบ 100 ล้าน สร้างอาคารสำนักงาน กกพ. ผิดวัตถุประสงค์

สตง.ค้านกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตั้งงบ 100 ล้าน สร้างอาคารสำนักงาน กกพ. ผิดวัตถุประสงค์

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า สตง.ได้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประจำปี 2559 ซึ่งมีการนำเงินกองทุน 100 ล้านบาท ไปสมทบก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ. ซึ่งกรณีดังกล่าวมีข้อสังเกตและความเห็นว่า เป็นการ ตั้งงบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนตามมาตรา 93 ที่ต้องการให้เป็นทุนสนับสนุนการให้บริการไฟฟ้าไปยังท้องที่ต่างๆ หรือส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เป็นต้น และไม่อยู่ในข่ายที่สามารถเบิกจ่ายได้ตามมาตรา 97 (1) ถึง (6) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงานฯ

"งบประมาณดังกล่าวเป็นลักษณะการจ่ายเงินอุดหนุนสมทบให้หน่วยงานเพื่อจัดหาทรัพย์สิน แม้กองทุนจะได้รับประโยชน์จากการใช้อาคารสำนักงาน แต่ไม่อาจถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนตามมาตรา 97 (6) เนื่องจาก ผู้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงคือ สำนักงาน กกพ. ดังนั้น การตั้งงบประมาณดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการ หาช่องทางเพื่อใช้จ่ายเงินของกองทุน เพื่อประโยชน์ของสำนักงาน กกพ. ซึ่งไม่มีกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ สตง. จึงมีหนังสือให้สำนักงาน กกพ.ทบทวน งบประมาณดังกล่าว" นายประจักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ.ได้หารือ ประเด็นข้อสังเกตและความเห็นของ สตง. ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 12) ได้ประชุมเพื่อพิจารณา ข้อกฎหมายดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากสำนักงาน กกพ. และ สตง. เข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผลการพิจารณาสรุปว่า การนำเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าไปใช้ เพื่อสมทบค่าก่อสร้างอาคารสำนักงาน กกพ.ไม่เข้าลักษณะการใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ของกองทุนตามที่กำหนดในมาตรา 93 และไม่อาจถือได้ว่าเป็น ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุนซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตและความเห็นของ สตง.

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสำนักงาน กกพ.ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แจ้งว่าได้นำเสนอ กกพ.เพื่อรับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาดังกล่าวแล้ว โดย กกพ.มีมติรับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และเห็นชอบให้ยกเลิกการขอกันเงินกองทุนไว้เบิกเหลื่อมปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จำนวน 100 ล้านบาท (ปัจจุบันยังไม่มีการใช้จ่ายเงิน) และต่อมากรมบัญชีกลางได้แจ้งให้สำนักงาน กกพ.ต้องถือปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาข้างต้น