posttoday

สินค้าเถื่อนทะลักไทย แห่นำเข้าแนวชายแดน ส่งขายออนไลน์ พาณิชย์เร่งประสานจับกุม

15 กุมภาพันธ์ 2562

ยอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ 11 เดือน ปี'61 พุ่ง 263% ผ่านด่านท่าเรือ พ่อค้าแม่ค้าหันซื้อสินค้าก๊อบปี้เพื่อนบ้าน หลังถูกทลายโรงงานในไทย

ยอดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ 11 เดือน ปี'61 พุ่ง 263% ผ่านด่านท่าเรือ พ่อค้าแม่ค้าหันซื้อสินค้าก๊อบปี้เพื่อนบ้าน หลังถูกทลายโรงงานในไทย

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าสินค้าก๊อบปี้ แบรนด์เนมผ่านด่านชายแดน และท่าเรือแหลมฉบังและกรุงเทพฯ ต่างจากเดิมที่มีการลักลอบผลิตในประเทศแล้วจำหน่าย ส่วนใหญ่เป็นสินค้าก๊อบปี้ประเภทแว่นตา น้ำหอม ชุดกีฬา เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา บุหรี่ไฟฟ้า ตุ๊กตาของเล่นเด็ก เป็นต้น เห็นได้จากข้อมูลการจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.พ.ย.) 2561 ของ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมศุลกากร สามารถจับกุมได้ 10.78 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้น 263.97% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

"ที่น่าเป็นห่วง พบว่ายอดการจับกุมสินค้าก๊อบปี้ปีที่ผ่านมาเป็นสินค้าที่ถูกจับตามด่านชายแดน ท่าเรือกรุงเทพฯ แหลมฉบัง เพิ่มขึ้นในปริมาณจำนวนมาก มีทั้งลักลอบการนำเข้า การสำแดงภาษีเป็นเท็จ แสดงให้เห็นว่าพ่อค้าบางรายพยายามที่จะมีการนำเข้าสินค้าก๊อบปี้ มาจำหน่ายในไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งคาดว่า หากสามารถลักลอบมาได้ก็จะนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมาก" แหล่งข่าวเปิดเผย

ด้านการจำหน่ายสินค้าก๊อบปี้ภายในห้างสรรพสินค้า แหล่งท่องเที่ยว ย่าน การค้าและตลาดนัดต่างๆ พบว่ามีปริมาณ น้อยลง และยอดการจับกุมสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้าลิขสิทธิ์ และสิทธิบัตร มีปริมาณของกลางที่ยึดได้น้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากแหล่งผลิตสินค้าก๊อบปี้ในไทยถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอย่างหนักทำให้หลายแห่งต้องเลิกการผลิต

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ได้เพิ่ม ความเข้มงวดในการตรวจสอบและจับกุมสินค้าละเมิดสิขสิทธิ์ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ท่องเที่ยวและตามตลาดนัด โดยใช้ทีมจรยุทธ์และชุดปราบปราม รวมถึงเจ้าหน้าตำรวจและผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทุกวัน

พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจ ขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต. ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการ สคบ. เร่งหาทางควบคุมธุรกิจการค้าขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกชนิด ทั้งทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และ แอพพลิเคชั่นไลน์ โดยเฉพาะในรายที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ซึ่งพบว่า มีอยู่หลายแสนราย แต่ปัจจุบันมีผู้มา จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพียง 4 หมื่นราย และมาจดทะเบียน กับ สคบ.เพียงแค่ หลัก 100 รายเท่านั้น โดยประสานทุกหน่วยงานที่มีข้อมูลกรมสรรพากรและสถาบันการเงิน เพื่อออกตรวจจับผู้กระทำผิด

ภาพประกอบข่าว